ระหว่างกินก็คุยกันว่า ป้าจิมนี่คนไหน เปิ้ลบอกน่าจะเป็นป้าคนที่ขายข้าว เพราะอยู่นานที่สุด หรือจะเป็นคนที่เป็นเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของเต้นท์ให้เช่าขายของ หรือว่าป้าคนขายน้ำ หรือว่าคนขายขนมหวาน คิดกันไป หรือเพราะร้านเค้าอยู่ข้างหลังร้าน จิม ทอมสัน ก็เลยเป็นร้านป้าหลัง จิม ทอมสัน ตัดให้สั้นลงเป็นป้าจิม อันหลังนี่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด เพราะคนขายข้าวส่วนใหญ่จะเป็นป้าๆ แล้วเวลาไปกินข้าว เราก็มันจะบอกว่าไปกินร้านป้า แล้วมันป้าไหนล่ะหว่า พอไม่รู้จักชื่อป้า ก็เลยต้องตั้งชื่อให้ตามระเบียบว่างั้น
วันนี้พูดกันเรื่องภาพยนตร์โฆษณากันเริ่มด้วย โฆษณาหมากฝรั่งยี่ห้องหนึ่งซึ่งมุกเสี่ยวมาก ดำน้ำไปแบบด้านๆ "ป๊อปอยู่กับหมาก...ฝรั่ง" ไม่มีสมองคิดอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่านี้แล้วหรืองัยกันไอ้คนทำโฆษณา หรือว่าทำออกมาตามใจเจ้าของโปรดักอย่างเดียวเลย
โฆษณาแชมพูยี่ห้อนึงพูดถึงหนุ่มกรุงเทพ หนุ่มกรุงเทพ แล้วไงหล่ะ เป็นเทวดาหรือไง ทำไมต้องหนุ่มกรุงเทพฯ ด้วย?? ทุกวันนี้ที่เห็นหน้าตาดีๆ หล่อ ก็มีแต่หนุ่มจังหวัดอื่นเข้าไปอยู่นั่นแหล่ะไม่เข้าใจคนทำโฆษณาแชมพูยี่ห้อนี้เลย ให้ตายเหอะ
โฆษณาอีกประเภทนึงคือพวกครีมบำรุงผิว เช่น น้องครีม ช๊อค ดูแล้ว ดำไม่ได้เลยนะ เด็กๆ ถึงได้บ้าเครื่องประทินโฉมกันน่าดู มันคล้ายๆ กับการเหยียดสีผิวยังงัยอย่างงั้นเลยนะ สินค้าอีกตัวนึงโยบอกว่าเหมาะสำหรับผู้หญิงแรด ทำโฆษณาออกมาทีไรผู้หญิงจะต้องไปซุกไปไซร์ผู้ชายตลอดเลย ก็นีเวียงัยล่ะ เออก็จริงแฮะ
และอันสุดท้ายพวกโฆณาครีมจั๊กกะแร้ขาว มันเยอะจริงๆ โชว์จั๊กกะแร้อยู่นั่นแหละ จนหลานเรามันจำเอามาทำเลียนแบบนะ ชอบยกจักกะแร้ให้คนโน้นคนนี้ดูว่าเนี่ย จั๊กกะแร้หนูขาวนะ ก็มันจะดำได้งัยล่ะหนอ หนูแค่ 4 ขวบเองอ่ะ แล้วโยก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า "แล้วผู้หญิงนี่จั๊กกะแร้ดำจริงๆ เหรอ" เออ...มันก็มีบ้างนะ ถ้าต้องถอนขนบ่อยๆ โดยเฉพาะพวกที่ขนเยอะๆ แล้วไอ้เจ้าขนเนี่ยประโยชน์ของมันเอาไม้ป้องกันไม่ให้ผิวหนังเสียดสีกัน แต่พอเราไปถอนมันออก มันก็ต้องมีเสียดสีกันทำให้เกิดรอยดำขึ้นมาประมาณนั้น โยก็เกิดสงสัยอีกมาว่า "แล้วผู้หญิงต้องโกน หรือถอนขนจั๊กกะแร้ตลอดเลยเหรอ" ถ้าไม่โกน ขืนใส่สายเดี่ยวแขนกุดมันก็ยางเฟร้ยออกมาให้ประชาชีเค้าตำหนิเอาได้สิค๊าบพี่น้องค้าบ ยังจะถามต่ออีก "ถ้าไม่ถอนมันจะยาวเหรอพี่" ไม่ถอนมันก็เหมือนไอ้ผู้ชายนั่นแหละค้าบ ลองผู้หญิงไม่โกนหรือไม่ถอนขนก็จะโดนข้อคนหาว่า ไม่เป็นกุลสตรีเอาเสียเลย หรือหลุดมาจากป่าไหนวะเนี่ย หรือไม่งั้นก็ต้องย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสอ่ะค่ะ ไอ้ส่วนผู้ชายที่โกนขนจั๊กกะแร้ หรือโกนขนหน้าแข้ง ก็ต้องถูกคนหาว่าเป็นน้องเตย น้องตุ๊ด หรือน้องแต๋วแน่นอนค้าบพี่น้อง
ช่วงบ่ายวันนี้หลังจากกลับมาจากกินข้าวก็ไม่เป็นอันทำงาน เพราะว่าเพื่อนเก่าเจ้ากรรมดันโทรมาคุยด้วย เหมือนมันไม่ได้คุยกะใครมาเป็นชาติงั้นแหละ คุยกะมันจนแบทมือถือที่ชาร์ทมาเต็มอัตราหมดคามือ เปลี่ยนก้อนใหม่แล้วนึกว่ามันจะเลิกรา ดันเสือกโทรมาอีก ไม่อยากคุยแล้วมันบอกมันไปว่าแบทกูหมดแล้ว เหลือไว้ให้กูโทรตอนฉุกเฉินเหอะ มันดันเสือกให้เบอร์บ้านมา แล้วบอกว่ามึงโทรหากูหน่อย ที่โต๊ะมึงมีโทรศัพท์นี่กูรู้ นั่นมันเสือกรู้อีก ทีนี้โทรกลับไปคุยกับมันยันสี่โมง
เล่าปัญหารักสามเส้ามันอีกตามเคย ก็ดันไปรักกับคนที่เค้ามีเจ้าของแล้ว จะให้ช่วยงัยวะ ช่วยได้แค่บอกว่ามึงตัดใจเหอะ เป็นมือที่ 3 มันดีตรงไหน มองคนอื่นบ้าง คนดีๆ ที่ยังไม่มีเจ้าของมีถมไป พูดจนปากจะฉีกถึงรูหูมันก็ไม่ฟัง เอาเหอะ ถ้ามึงแต่งงานตอนอายุซัก 25 ป่านนี้ก็คงมีลูกไป 3 คนแล้ว คิดเองได้แล้วมั๊ง ไม่อยากจะยุ่งแค่ฟังเฉยๆ พอแล้ว ไม่อยากไปยุยงส่งเสริม หรือห้ามปรามอะไรแล้ว แปลกใจจริงๆ ทำไมใครๆ ชอบมาปรึกษาเราเรื่องความรักล่ะนั่น คิดว่าเราจะช่วยได้เหรอ ก็คงช่วยได้จริงๆ แหละ ช่วยฟังงัยล่ะ
เป็นนุษย์นี่มันก็วุ่นวายจริงๆ นะ ถ้าต้องมาเจอปัญหาเยอะแยะมากมาย ไอ้ Johnnie มันยังอยากจะเลือกที่จะเป็นมนุษย์อีกหรือเปล่าว๊า
จบเรื่องรักสามเศร้า เศร้าจริงๆ ด้วยแหละ เศร้าที่เราต้องมานั่งฟังมันพล่ามนี่แหละ ก็ต่อด้วยเรื่องความเคลื่อนไหวของเพื่อนร่วมงานเก่าตอนที่อยู่เอ็มเว็บว่าตอนนี้ใคร ทำอะไรอยู่ที่ไหน เป็นยังงัย แล้วใครยังอยู่ที่เดิม สุดท้ายอยากบอกจริงๆ ว่ากูปวดหูแล้วไม่อยากคุยแล้วว้อย เลยตัดบทไปว่า เดี๋ยวกูมีประชุมตอนสี่ครึ่ง กูขอไปห้องน้ำห้องท่าอะไรก่อนนะเดี๋ยวกูจะต้องไปประชุมแล้ว ถึงจะวางสายจากมันได้ เสร็จแล้วก็มานั่งประชุมถึงห้าครึ่งก็ได้เวลากลับบ้าน ลั๊ลลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น