วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เรื่องเล่าในคอนโดแสนสงบ Oct 3, '07 12:45 AM

อยู่คอนโดนี้มาได้ประมาณ 3 ปีได้ ไม่รู้จักเพื่อนบ้านเลยซักคน ไม่เคยจำใครได้ด้วย คอนโดเรามองแล้วจะเป็นตึกยาวเหมือนจะเดินเชื่อมกันได้ทั้งตึก แต่เปล่าเลยจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง แต่ลุฝั่งจะมีลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้น 9 เพราะฉะนั้นในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องไม่กี่ห้องเอง ชั้นเรามีอยู่ 5 ห้อง แต่มีคนอยู่จริงๆ อยู่ประจำเลย คือห้องเราเท่านั้น สำหรับห้องอื่นก็มาบ้างเป็นบางครั้ง

ดูเหมือนว่าไม่มีใครให้เราได้ทักทายหรือจด
จำเลย แม่บ้าน คนทำสวนน่ะเหรอ ไม่เคยทักทายเหมือนกัน เพราะแต่ละคนหน้าตาไม่ค่อยรับแขกกันเท่าไหร่ สำหรับ รปภ. หรือเรียกสั้นๆ ว่ายามน่ะเหรอแต่ละคนอยู่กันไม่เกินถึง 3 เดือน ก็เปลี่ยนใหม่แล้ว ไม่รู้มันจะเปลี่ยนอะไรกันนักหนา จำได้ว่ามียามคนนึงแอ็คทีฟมากมาย จะคอยโบกรถโดยวิ่งนำหน้ารถทุกคันที่จะออกจากคอนโด จริงๆ มันไม่ต้องไล่ต้อนเราออกตั้งแต่เราสตาร์ทรถก็ได้ แค่ไปยืนดูตรงทางออกแล้วคอยดูรถที่จะสวนเข้ามาแล้วโบกก็พอ ก็เลยคิดว่าเอาน่า ดีกว่ามันนั่งเฉยๆ ไม่สนใจอะไรเอาซะเลยเหมือนบางคน

แล้วไอ้เจ้ายามตัวแอ็คทีฟนี่เองมีอยู่เย็นวันนึง เราก็กลับเข้าคอนโดตามปกติ เอาคีย์การ์ดปิ๊ด กำลังจะเดินเข้าประตูไป มันวิ่งจู๊ดมาหา พร้อมกับบอกว่า พี่ครับพอมีเศษเหรียญให้ผมซัก 3 บาทได้ไม๊ ผมจะโทรไปหาแฟน พอดีมีเรื่องด่วน เราก็ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ระหว่างล้วงอยู่นั้นมันก็พูดต่อ 5 บาท 10 บาท หรือ 20 บาทก็ได้นะ เดี๋ยววันที่ 17 ผมเอามาคืน เอ๊ะ...ชักงัย ก็ตอนแรกขอแค่ 3 บาทนี่หว่า พอดีในกระเป๋ากางเกงเรามีเศษเหรียญแค่ห้าบาท เราก็ยื่นให้ไป เค้าก็ยกมือไหว้รับไป จริงๆ แล้วอยากให้มากกว่านั้น แต่พอได้กลิ่นเหล้าหึ่งก็เลยเปลี่ยนใจ

หลังจากเย็นวันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่เห็นหน้าเจ้ายามแอ็คทีฟคนนั้นอีกเลย คาดว่าเย็นวันนั้นคงใช้มุขนี้ขอเงินคนในคอนโดไปได้หลายตังค์อยู่...ดีนะที่ไม่ได้ให้ไปเยอะ

เช้าวันนี้นาฬิกาปลุกก็ทำงานของมันตามปกติ แต่เราไม่อยากตื่นมาทำงานเลย มันเพลียๆ ปวดท้อง ก็เลยหลับต่อตั้งใจว่าจะโดด นอนไปได้ซักพัก ก็คิดขึ้นมาได้ ตายละ กุญแจตู้อยุ่กับเรา ถ้า user มารับของรางวัลจะทำงัยล่ะนั่น สงสารอุตสาห์มารับแล้วดันไม่ได้ของ กรรมจริงๆ ทำไมต้องเอากุญแจมาฝากที่กรูด้วยฟระ..กรูเป็นอะไรก็พวก marketing เนี่ย ก็เลยต้องขุดตัวเองออกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัว ปลุกพี่บิ้นขับรถมาส่งเหมือนเคย

พอขึ้นรถได้เริ่มสตาร์ทรถเท่านั้นแหละ บิดลูกกุญแจไปกี่รอบๆ ก็แชะๆๆ นึกในใจ ในที่สุดก็ไม่ต้องไปทำงาน เงยหน้าขึ้นไปคุณลุงคนนึง กำลังจะเปิดประตูขึ้นรถตัวเองมองมาทางเรา พร้อมกับพูดว่าแบทมันหมด พวกเราก็ออกจากรถแล้วมาเปิดกระโปรงดู คุณลุงก็เดินเข้ามาบอกว่าแบทมันไม่ดีแล้วล่ะ มีสายพ่วงหรือเปล่า พอพี่บิ้นบอกไม่มี

คุณลุงก็เดินกลับไปที่รถ แล้วสตาร์ทรถ ถอยหลังเอากระโปรงด้านหน้าของตัวเองมาจ่อใกล้ๆ รถเราเดินออกมาเปิดฝากระโปรงรถตัวเอง พร้อมกันเดินอ้อมไปเปิดด้านท้ายเอาสายพ่วงมาช่วยชาร์จแบทให้เราหลังจากสาร์ทรถได้แล้ว ก็พูดคุยกันซักพักเรื่องแบท ถามไถ่กันว่าอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว อยู่ชั้นไหน ทำงานที่ไหน คุณลุงบอกว่าพักอยู่ชั้นบน แล้วทำงานเป็น สว. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ได้ถามไถ่ชื่อคุณลุง แต่รู้ว่าคุณลุงใจดีจริงๆ หลังจากยกมือไหว้ขอบคุณคุณลุงแล้ว ก็ขับรถออกมา คุณลุงก็ขับรถกลับไปจอดที่เดิม พร้อมกับง่วนเก็บของจากรถคันนึงไปวางไว้บนรถคันที่เอามาช่วยจั๊มแบทให้เรา
คุณลุงบอกว่าคอนโดนี้เงียบสงบ น่าอยู่ อืม...เงียบสงบ น่าอยู่จริงๆ ด้วยแหละ ..แม้มันจะเก่าไปหน่อยก็เหอะ...เพราะคอนโดเราอยู่ท้ายซอย แล้วซอยที่เราอยู่เป็นซอยตันด้วย รถไม่วิ่งผ่าน ตอนนี้ก็มีแต่รถของคนที่มีบ้านอยู่ในซอยนี้ รถของคนในคอนโด และรถที่มาใช้บริการคอร์ทแบทเท่านั้นแหละ ที่วิ่งเข้ามา แล้ววันนี้ก็ได้รู้จักเพื่อนบ้านใจดีมาอีก 1 คน Google ช่วยเราได้ ตอนนี้รู้จักชื่อคุณลุงแล้วนะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น