เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพวกเราได้กลับบ้านกันตั้งแต่ 4 โมงเย็น เพราะต้องแพ็คของลงกล่อง พร้อมเก็บคอมของเราให้พร้อม เพื่อให้ทางฝ่านขนย้าย มาขนของเราลงไปชั้น 5 ย้ายอีกแล้ว ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ครั้งนี้ก็เป็นการย้ายครั้งที่ 2 แต่สำหรับคนที่ทำงานมานานกว่าเรามันเป็นการย้ายครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ข่าวว่าจากตึกดุสิต มาชั้น 15 จาก 15 ลงมา 13 จาก 13 ลงมาชั้น 5 พูดเล่นๆ กันว่า ย้ายอีกที ไม่ไปขี่คอกันรู้ที่ทรูช้อปชั้น 1 ก็ไปอยู่ชั้นใต้ดินคือ ชั้นจอดรถนั่นเอง
ก็มีเรื่องเล่าข่าวลือมาว่าชั้นที่เราอยู่นี่มีแมวน้ำด้วย ข่าวว่ามีคนเคยเจออย่างจัง แล้วไม่มาทำงานอีกเลย คนนั้นเป็นใคร เป็นจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ หรือเป็นแค่ข่าวลือ เค้าว่าแมวน้ำตัวนี้อยู่ในห้องน้ำด้วยนะ ห้องน้ำชาย หญิง ที่ประตูติดกัน ทางไปชั้นจอดรถน่ะ พอเข้าห้องน้ำทีไร ไม่มีคนอื่นเข้าด้วย ก็เสียวหลังวาบๆ อยู่เหมือนกัน บอกไม่ถูก เอาวะตอนกลางวันถ้าเจอ ก็คงไม่รู้ว่าเป็นแมวน้ำหรือคน เพราะทั้งชั้นเราก็ไม่ได้จำหน้าได้หมดทุกคน ถ้าไปเจอห้องน้ำ จะเป็นคน หรือแมวน้ำ ก็คงแยกไม่ออกแหละ ไอ้เรามันก็ไม่มี sense เรื่องแมวน้ำด้วย เกิดมาก็ไม่เคยเจอ และไม่อยากจะเจอด้วยจ้า แต่ตัวเป็นๆ ในสวนสัตว์มันคนละอย่างกันน่า อันนั้นน่ารัก ไม่น่าได้น่ากลัว
แต่ที่รู้แน่ๆ คือ การที่เราย้ายลงมาชั้น 5 นี้ ทำให้มีคนคนนึง ต้องถูกไล่ออกจากงาน ในอีเมล์ที่เอเปิดให้ดูบอกว่าถูกไล่ออก แต่คาดว่าน่าจะเป็นการให้ออกมากกว่า คาดว่าพอเราย้ายลงมาชั้นล่าง แล้วแม่บ้านของชั้นก็มีอยู่แล้ว เค้าก็คงไม่เอาจากชั้นโน้นลงมา คนที่ว่านี้คือคุณป้าแม่บ้านตัวอ้วนๆ ที่เดินขากระเผลกๆ ไปมาคนนั้นงัย ก็คุยกันว่าบริษัทที่เป็นนายจ้างป้า ก็เป็นบริษัทใหญ่ เค้าไม่น่าจะไล่คนออกโดยไม่มีเหตุผล มันอาจจะมีอะไรเบื้อหลังอยู่ก็ได้
คุณป้าเป็นคนไม่ดีงั้นเหรอ จำได้ว่าครั้งแรกที่เราย้ายจากชั้น 13 ลงมาชั้น 11 บังเอิญโต๊ะเราไม่มีถังขยะ แล้วเราก็ถือขยะเดินวนไปวนมา หาถังขยะเพื่อที่จะทิ้ง แต่ยังไม่ได้พูดอะไร ป้าเค้าก็มาเกาะรั้วหน้าห้องน้ำชาย พูดกับเราว่า หนูหาอะไรล่ะลูก จะทิ้งขยะหรือ ไม่มีถังใช่ไม๊ เดี๋ยวป้าไปเอามาให้นะ ว่าแล้วป้าก็เดินไปหยิบมาให้ ตั้งแต่วันนั้นโต๊ะเราก็มีถังขยะประจำโต๊ะเหมือนกับคนอื่น ตั้งแต่วันนั้นมาเจอคุณป้าทุกวัน ก็พูดเล่นทักทายกันประจำ แต่ก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องส่วนตัวของป้า แม้แต่ชื่อป้าเองก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไรด้วยซ้ำ
แต่จำได้ว่าคุณป้าเล่าให้ฟังว่าหัวหน้าให้คุณป้าพักงาน เพราะขาป้าไม่ดี อาจจะเกะกะ ทำงานไม่สะดวก ทำให้คนอื่นรำคาญ แต่ป้าบอกว่า ป้าขอทำต่อเพราะลูกป้ายังเรียนอยู่ต้องใช้ต้องจ่าย ป้ายังบอกว่าพนักงานที่นี่น่ารัก มีอะไรที่ทำด้วยตัวเองได้ ก็ทำกันเอง ผ่อนแรงป้าได้เยอะ แล้วมีคนช่วยพูดให้ด้วยก็เลยได้ทำงานต่อก่อนหน้าที่จะย้ายไปอยู่ชั้น 5 กัน ก็ถามป้าว่า ป้าได้ย้ายลงไปด้วยกันหรือเปล่า ป้าบอกไม่รู้สิ ไม่รู้เค้าจะให้ลงไปหรือเปล่า แต่ป้าอยากลงไป ป้าพูดพร้อมนำตาคลอด แล้วป้าก็พูดต่อว่าถ้าเค้าให้พนักงานช่วยกันโหวตให้ป้าลงไปจะช่วยโหวตให้ป้าไม๊ วันนั้นก็ตอบป้าไปว่า ป้าได้ลงไปอยู่แล้ว หนูจะยกมือให้ป้าเป็นคนแรกเลย นั่นแหละคือครั้งสุดท้ายที่คุยกับป้า
ด้วยความที่เรามาทำงานทีหลังจึงไม่ได้รับเมล์จากทาง Truecorp เลย เห็นบอกว่าคนที่เค้าทำงานก่อนหน้าเรา ตอนที่พี่หนึ่งอยู่ พี่หนึ่งจะเช็ทให้ Farward ส่งมาให้ที่เมล์ TrueLife เรามายุคเสื่อม ไม่มีใครคอยดูแลเรื่องพวกนี้ให้ ก็เลยเป็นพวกที่ตกข่าวจากทาง Truecorp โดยสิ้นเชิง ถามเก่ง ก็บอกทำให้ไม่ได้ต้องไปติดต่อทางทีมไหนไม่รู้ ไม่สนใจแล้ว ช่างมัน ก็พวกที่มาหลังๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด ไม่เห็นใครจะเดือดร้อนอะไรเลย
ทำไมพูดถึงเรื่องเมล์น่ะเหรอ พอดีเจตต์เค้า farward เมล์มาให้เอ เรื่องคุณป้า คือมีคนในชั้นเรานี่แหละ อาจจะรู้เรื่องของป้าส่งเมล์มาว่า คุณป้าถูกไล่ออก แล้วคุณป้าป่วยเป็นโรคเอ็นยึด ต้องการเงินไปผ่าตัดเพื่อที่เมื่อหายแล้วจะได้มาทำงานได้ปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ให้ต้องโดนไล่ออก ใครที่สงสาร หรือต้องการช่วยเหลือให้เอาเงินไปให้ใครก็ไม่รู้ เอเปิดเมล์ให้ดูแป๊บเดียว เพราะวันนั้น ก็วุ่นวายเก็บของกันทั้งวัน ก็เลยไม่ได้ให้ถามว่าจะต้องเอาเงินไปช่วยป้าได้ที่ใคร จะเอาไปให้คุณป้าด้วยตัวเองวันนั้นก็มองไม่เห็นคุณป้ามาทำงานแล้วด้วย
แย่จังนะคนเรา บางคนก็มีเงินรวยล้นฟ้า แต่หารู้ค่าของมันไม่ หรือบางคนรวยมากมาย แต่ก็ไม่เคยคิดจะพอ เงินเดือนป้าจะซักเท่าไหร่เชียว อย่างมากไม่เกิน 5000 แถมต้องมาส่งลูกเรียนอีก ทำงานก็หนักกว่าเรา มาทำงานก่อนพวกเรา กลับทีหลังพวกเราอีก นี่แหละนะ ความไม่เท่ากันของคนในสังคม พูดไปก็เศร้า
ชั้น 5 ไม่ดีเลย ที่นั่งแคบ เพดานเตี้ย เพราะมันเป็นชันเดียวกับชั้นจอดรถ แต่ที่นั่งเราดีหน่อยตรงที่ว่ามันไกลจากคนอื่น เป็นส่วนตัว เสียงไม่ดัง เพราะอยู่ใกล้พวก network แต่คนที่น่าสงสารที่สุดคือโย นั่งตรงทางเดิน แถมใกล้โต๊ะประชุมอีกต่างหาก คนประชุมกันทุกวัน คุยกันเสียงดัง คงรำคาญน่าดูเลย จะย้ายที่ต้องขอจากเจ้านายก่อนด้วย ไม่รู้จะยอมหรือเปล่าด้วย เห็นเปิ้ลกะปอนด์กำลังจะหาทางคุยกะเค้าอยู่ เอาใจช่วยนะโย..
อ้อ....ที่แปลกใจอีกอย่างคือ ตอนที่เราอยู่ชั้น 11 พอเที่ยงปุ๊บพี่ยามก็จะเดินมาปิดไฟให้มืดมิดทั้ง Floor เลย แต่พอย้ายมาอยู่ชั้น 5 ไม่เห็นจะปิดไฟเลย ก็เลยทำให้ไม่รู้เลยว่าเวลาไหน เวลาพัก เวลาไหน เริ่มทำงานได้...ก็คุยๆ กันนะว่า ทำไมเค้าไม่ปิดไฟเนี่ย ค่าเช่าชั้นนี้มันถูกหรือว่ากลัวแมวน้ำโผล่มาตอนมึดๆ กันแน่
ได้หมีมาตัวนึงด้วย เอขี้เกียจแพ็ค มันเหลืออยู่ 4 ตัว ก็เลยได้รับแจกมาตัวนึง แถมกำชับด้วยว่าห้ามบอกใครนะพี่แหม่ม ถึงบอกใครไป เอก็ไม่มีให้อีกแล้วแหละ ก็มันหมดแล้วนิ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น