วันอังคารเวลา 9.30 น. เป็นเวลาที่นัด แม่กับพ่อต้องตื่นมาตั้งแต่หกโมง อาบน้ำแต่งตัว เก็บสัมภาระมามิไปไว้ในรถ ในขณะที่มามิกำลังหลับปุ๋ย หนูคงไม่รู้หรอกว่าวันนี้หนูจะไปเจออะไร ได้แต่บอกลูกว่าวันนี้หนูจะไปเจอคนเยอะมากๆ หนูเป็นเด็กดี ไม่งอแงนะจ๊ะ
ปกติเจ็ดโมงครึ่งอาม่าก็ต้องออกไปที่ร้านกับอากงแล้วแต่อาม่าพยายามยื้อเวลาเพื่อที่จะรอส่งหลานขึ้นรถ แต่ด้วยความที่ต้องเตรียมอะไรอีกเยอะแยะ อาม่าก็รอไม่ไหวกลัวไปเปิดร้านสาย แม่ก็เลยพามามิไปลาอาม่าก่อน อาม่าก็บอกหนูว่า อย่างอแง อย่าร้องไห้นะอามามิ ^_^
แปดโมงเช้าล้อหมุน รถมาติดก่อนลงทางด่วนพักใหญ่เลยแหละ แต่ก็ไปถึงโรงแรมที่ถ่ายทำละครก่อนเวลานิดนึง เค้าเหมาชั้น 3 ทั้งชั้นของโรงแรมซึ่งเป็นส่วนของคาราโอเกะสำหรับการถ่ายทำครั้งนี้ เป็นฉากงานเลี้ยงรุ่น ไปถึงอย่างที่คาดไว้ผู้คนเยอะแยะมากมาย ทั้งตากล้อง ทีมงาน นักแสดง แต่พระเอก นางเอกยังไม่มา
รอซักแป๊บก็มีคุณพ่อกับคุณแม่เข็นรถเข็นเด็กแฝดมา น้องทาคุมิ กับน้องไคโตะหรืองัยนี่แหละ จำชื่อน้องอีกคนไม่ได้ หน้าตาเหมือนกันมาก พ่อเป็นญี่ปุ่น แม่เป็นคนไทย มาจากภูเก็ตเชียวนะ บินมาเพื่อการนี้เลย น้องทาคุมิจะต้องแสดงเป็นน้องเหม่งเด็กผู้ชายที่จะต้องถูกจับมาแต่งหญิงเป็นฝาแฝดของหนูซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงจะต้องมาแสดงเป็นเด็กผู้ชาย เพราะน้องมามิผมยาวนี่เองเลยต้องเป็นน้องฟู
ทาคุมิ 9 เดือน มามิ 5 เดือน ตัวเท่ากันเลย แม่ยังสงสัยว่าหนูตัวโตเป็นอาหมวยยักษ์ หรือว่าทาคุมิตัวเล็กเป็นยุ่นแคระ ทาคุมิเกาะเดินได้แล้ว แต่มามิยังนั่งไม่ได้เลย
หลังจากที่ให้น้องๆ ทำความรู้จักกันซักพัก พี่ต่อที่เป็นคนติดต่อให้น้องมามิมาเล่นเรื่องนี้ก็มาถึง เค้าเอาชุดมาให้ หนูมามิได้ชุดผู้ชาย เป็นกางเกงยีนส์ เสื้อยืดตัวโคร่ง กับเสื้อแขนยาวทับข้างนอกอีกตัว แต่งตัวเป็นเป้น้อยเลย ส่วนทาคุมิต้องใส่ชุดสีชมพู ที่คาดผมสีชมพู เป็นเด็กผู้หญิงที่แมนดีจริงๆ แล้วคุณพ่อโรบิ้นของเราก็ต้องแต่ตัวเป็นพี่เป้ เพื่อเข้าฉากแสดงแทนพี่เป้ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมน้องฟู งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้มามิ เพราะพ่อเลี้ยงหนูน้ำหนักพ่อเลยลดลง จากที่เคยใส่กางเกงเอว 34 แต่ตอนนี้พ่อใส่กางเกงพี่เป้เอว 32 ได้
ตอนถ่ายฉากเปลี่ยนผ้าอ้อมกล้องมาจ่ออยู่สองตัว ไฟด้วย หนูไม่ร้องเลย เพราะเล่นกับพ่อตัวเอง แต่ซนมาก โต๊ะที่ใช้เปลี่ยนผ้าอ้อมตัวเล็กนิดเดียว หนูก็คว้าข้าวของที่วางข้างๆ ตัวหนูทุกสิ่งอย่าง พ่อก็กลัวหนูจะหล่นลงไป กว่าจะเปลี่ยนกันเสร็จก็เล่นเอาหลอกล่อกันเหนื่อย แถมผ้าอ้อมที่ใช้พ่อไม่ถนดปกติไม่เคยใช้แบบ pant แต่วันนี้เค้าดันเอาแบบ pant มาให้ เปลี่ยนผ้าอ้อมเสร็จต้องใส่กางเกงยีนส์ให้หนูอีก หนูไม่เคยใส่กางเกงยีนส์เลย ใส่ยากมากมาย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี จะออกซักวินาทีว๊าาาฉากนี้
หลังจากนั้นพระเอก นางเอกก็มา หนูก็เข้าห้องเตรียมตัวรอฉากต่อไป เป็นฉากที่พี่เป้กระเตง น้องเหม่งกะน้องฟู ถ่ายทีเซอร์ แม่ของน้องทาคุมิก็จับน้องใส่เป้ข้างขวา แล้วพ่อโรบิ้นก็เอาหนูเข้าไปข้างซ้าย ตอนแรกมามิไม่ร้องเลย แต่ทาคุมิร้องตลอดเสียงดังมาก พอจับไปอยู่ในเป้ด้วยกัน มามิก็เลยร้องตาม น่าสงสารลูกมากๆ เพราะพ่อแม่น้องแฝดซื้อมาก็ใช้ไปแค่ครั้งเดียวน้องไม่ชอบ มามิอยู่บ้านพ่อเค้าก็จับใส่เป้บ่อยๆ เค้าก็ไม่มีปัญหานะ
อีกอย่างเค้าใช้เป้อุ้มเด็กไม่เป็นกัน พี่เป้แทนที่จะประคองหัวน้องดันไปประคองตูดซึ่งตูดยังงัยก็ไม่หลุด แต่ถ้าไม่ประคองหัวมันจะคอพับคออ่อน เพราะมามิจะเอาหน้าหลบสายเป้ที่คาดผ่านหน้าเค้า จริงๆ ต้องเอามามิลงไปก่อน เพราะเค้าไม่ร้องไห้ พอเอาทาคุมิลงไปก่อน ซึ่งคนนั้นร้องตลอดเวลาอยู่แล้ว มามิเห็นเค้าร้องจะอดใจไหวเหรอ
พักกลางวันก็ได้ทานข้าวกันในกองถ่ายเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อยมากมายแม่กินไปชามนึงอย่างเร่งรีบ เพราะต้องคอยดูมามิไปด้วย
ฉากตอนบ่ายเป็นฉากจับเด็กลงเป้อีกแล้วน้องทาคุมิก็ร้องไห้ไม่หยุดเหมือนเคย ต่อด้วยฉากถ่ายรูปหมู่ในงานเลี้ยงพี่อั้มอุ้มมามิ พี่เป้อุ้มทาคุมิ ทาคุมิก็ร้องตลอดเวลา มามิก็ร้องๆ หยุด พี่อั้มอุ้มน้องเก่งมาก พอน้องเริ่งจะร้องก็คอยโอ๋น้องตลอด น้องก็เลยไม่ค่อยร้องไห้ จนคนแซวว่าอั้มเคยมีลูกแล้วเหรอถึงได้อุ้มเด็กเก่ง ส่วนทาคุมิน่ะเหรอยังคงร้องต่อเนื่องไม่หยุดเลย
จนผู้กำกับต้องสั่งพัก 5 นาทีเพื่อเอาทาคุมิไปเก็บ แล้วแตะมือให้น้องแฝดอีกคนมาเล่นแทน พอทาคุมิถูกเปลี่ยนตัวแม่มาอุ้มออกไปน้องหน้าตาสดชื่นขึ้นมาทันใด แถมกลับไปนอนในรถเข็นยิ้มอย่างสบายใจ น้องคงคิดว่า " เห้อ... รอดแล้วกรู " ส่วนมามิน่ะเหรอ หนูไม่มีฝาแฝด ไม่มีคนแสดงแทน เหนื่อยยังงัยหนูก็ต้องอดทน
พอเปลี่ยนตัวมาเสร็จกลับมาฉากถ่ายรูปต่อน้องแฝดไคโตะก็ไม่แพ้กันนะคะแหกปากร้องไม่หยุดเลย ยิ่งร้องดังกว่าเพราะสะสมพลังงานไว้เยอะ พอเริ่มถ่ายน้องก็เริ่มร้อง คิดดูรูปหมู่ที่พ่อโรบิ้นกดมาเป็นร้อยภาพ ไม่มีรูปไหนที่น้องไม่ร้องเลย จนสุดท้ายผู้กำกับบอกพอแล้ว น้องร้องไห้จนหน้าแดงไปหมดแล้ว
ต่อมาก็เป็นฉากเปลี่ยนผ้าอ้อมน้องเหม่ง ซึ่งฉากนี้ใช้เวลาถ่ายนานมาก เพราะน้องเหม่งร้องไห้ตลอดเวลาไม่ยอมให้ใครอุ้ม ไม่ยอมกินนม ถ่ายแล้วถ่ายอีกก็ไม่ได้ ก็น่าเห็นใจน้องเค้าอยู่เพราะเค้าเป็นครอบครัวเล็ก พ่อแม่เค้าเลี้ยงเอง ไม่ค่อยได้เจอใคร ถึงได้ไม่ยอมให้คนแปลกหน้าอุ้ม
สุดท้ายก็เลยต้องเอาพ่อตัวจริงของน้องเหม่งมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนพี่เป้ แล้วก็ไปถ่ายแทนแบบไม่ให้เห็นหน้า ไม่งั้นวันนั้นคงไม่ต้องได้กลับบ้านกัน หลังจากถ่ายฉากให้นมเสร็จ ก็เป็นฉากถ่ายเจาะ โดยที่จะถ่ายซูมหน้าตอนน้องรองไห้อยู่ในเป้อุ้มทีละคน
ก็ได้พ่อญี่ปุ่นนั่นแหละสะพายเป้ แล้วเอาน้องใส่ทีละคน โดยที่ถ่ายน้องเหม่งก่อนฉากนี้น้องเหม่งไม่ต้องรอ ไม่ต้องเทค เพราะเธอร้องตลอดๆ แต่มามินี่สิพอเค้าเอากล้องไปจ่อเธอไม่ยอมร้องไห้เค้าก็เลยแหย่บอกร้องๆ เธอก็ร้องแป๊บนึงเธอก็หยุดอีก ก็ต้องแหย่ให้ร้องอีก บอกแล้วว่ามามิฉากร้องไห้เธอไม่ถนัด ^_^
มามิของเรา ตอนเล็กๆ หนูอยู่กะพ่อแม่ก็จริง แต่ทุกวันอาทิตย์พ่อกับแม่พาหนูไปบ้านอาม่าตั้งแต่ 2 เดือน ที่บ้านอาม่าทุกครอบครัวมารวมตัวกันกินข้าวเย็น คนก็เยอะเสียงจะดัง โดยเฉพาะพี่นาน่าตัวแสบ หนูก็เลยชิน แถมเจอใครมาทักทาย มาคุยด้วยหนูอารมณ์ดีหนูก็ยิ้มให้แม่ pr ตัวน้อย แต่ถ้าหนูอารมณ์ไม่ดีหนูก็จะทำหน้างงๆ แล้วจ้องแค่นั้นเอง ไม่มีร้องไห้ ไปที่กองถ่ายใครมาขออุ้มหนูก็ให้เค้าอุ้มหมด ไม่มีร้องเลย คนชมกันใหญ่ว่าหนูน่ารัก ก่อนออกจากบ้าน อาม่าสอนหนูมาดี ไม่มีงอแงเลย
กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็น น้องในกองมาถามว่าจะทานข้าวก่อนกลับหรือเปล่า หิวนะ หิวมาก แต่ไม่ไหว อยากพามามิกลับบ้าน กลัวลูกเหนื่อย ก็เลยขนของขึ้นรถกลับเลย กลับไปกินกับข้าวฝีมืออาม่าดีกว่า
มามิขึ้นรถได้ซักพักก็หลับ แม่ก็เลยเอาขึ้นไปนอนในห้อง พอตื่นมาหนูเห็นว่าอยู่ในห้องนอนในบ้านตัวเองหนูดีใจมาก ยิ้มร่าดีดแข้งดีดขาใหญ่เลย นี่แหละ 1 วันในกองถ่ายของมามิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น