เที่ยงวันเสาร์ที่ผ่านมาเรามีนัดกับ Dr.Kong ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าเป็นใคร เป็นร้านรองเท้าเพื่อสุขภาพน่ะ มีคนรู้จักกันแนะนำมาว่าให้ลองไปตรวจสุขภาพเท้ากันดูสิ ก็เลยพากันไปทั้งครอบครัว รวมถึงเจ้าตัวจิ๋ว โมโม่ ด้วย
แชะรูปหน้าร้านก่อนเข้าไปเลือกรองเท้า
เรานัดกันที่ Fashion Island ชั้น 1 แถวๆ หน้าห้าง Big C ตรงนั้นจะมีร้านรองเท้าหลายร้านติดกันเลย ตรงดิ่งไปร้านนี้เลยค่ะ Dr. Kong พอเดินเข้าไปมีพนักงานน่ารัก และใจดียิ้มแย้มทักทาย พาเราไปรู้จักกับคุณเกรียงไกร พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเท้า ซึ่งหลายคนมักจะละเลยไม่ใส่ใจ จากนั้นเราก็เริ่มขั้นตอนการตรวจสุขภาพเท้ากัน ด้วยการขึ้นเครื่องวัดเท้ากันก่อน
บรรยากาศภายในร้าน เครื่องวัดเท้า ตั้งอยู่หน้าร้านเลยค่ะ
เริ่มจากแม่ก่อนเลย พอขึ้นเครื่องปุ๊บเหยียบเท้าลงเครื่องปั๊บ เห็นเลยจะมีสีเขียวจะขึ้นตรงอุ้งเท้าเรา ของแม่จะมีสีเขียวขึ้นแค่ตรงปลายเท้าและส้นเท้า ตรงกลาง และด้านข้างหายไป ปัญหาเรื่องเท้าของแม่คืออุ้งเท้าจะโค้งมาก เวลาเหยียบลงไปที่พื้นคือเอานิ้วมือสอดเข้าไปใต้อุ้งเท้าได้เลย ทำให้เวลาใส่รองเท้าที่มีพื้นแบนราบ หรือรองเท้าส้นสูงๆ จะทำให้เมื่อยเท้าและเมื่อยขามาก ลักษณะขาของแม่โค้งไปทางด้านหลัง หรือที่เรียกว่าหัวเข่าแอ่น ทำให้เวลายืนนานๆ หรือเดินนานๆ จะทิ้งน้ำหนักไปทางด้านหลัง ปัญหาที่ตามมาคือ ปวดเข่า ปวดหลัง การออกกำลังกายเพื่อลดปัญหาการปวดเข่า ปวดหลัง สำหรับแม่คือ การย่อเข่า เกร็งหน้าขาแล้วนับ 1-10 วันละ 30 ครั้ง ส่วนในเรื่องของข้อเท้าคุณเกรียงไกรบอกว่าข้อเท้าตรงเป็นปกติดีไม่มีปัญหาค่ะ
การเลือกรองเท้าเพื่อแก้ไขปัญหาเท้าแบบนี้ คือต้องเลือกรองเท้าที่เสริมให้นูนตรงอุ้งเท้า เพื่อให้เราเหยียบเท้าลงไปได้เต็มอุ้งเท้า ทำให้เวลาเรายืน หรือเดินจะได้สบายเท้ามากขึ้น พอเรารู้ว่ารองเท้าแบบไหนที่เหมาะกับเราแล้วก็ไปเลือกรองเท้าที่ชั้นได้เลย รองเท้าที่นี่มีเยอะจริงๆ ค่ะ มีให้เลือกหลายแบบ สวยๆ ด้วยนะ ใครว่ารองเท้าสุขภาพไม่สวย อันนี้ขอถียงเลยค่ะ มีสวยๆ ให้เลือกเยอะมาก ลองไปหลายคู่จนได้รองเท้าคู่สวย และเหมาะกับเท้าของแม่มาคู่นึง โอ้ววว ใส่แล้วมันสบายเท้าจริงๆ ค่ะ
เสร็จธุระของแม่ ก็ถึงตาของเจ้าหนูมามิขึ้นเขียง เอ้ยยย ขึ้นเครื่องวัดเท้า เจ้าหนูให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขึ้นไปยืนนิ่งๆ ให้วัดแต่โดยดี วางเท้าลงไปปั๊บเห็นเลยสีเขียวขึ้นมาตรงอุ้งเท้าแบบเต็มเท้าเลย ปัญหาของมามิคือเท้าแบน ปัญหาของคนที่มีลักษณะเท้าแบนคือ ทำให้เดิน และยืนไม่สบาย ไปไหนมาไหนก็จะไม่อยากเดิน จะร้องให้อุ้ม วิธีแก้ปัญหาคือ เลือกรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า ข้อเท้าของมามิจะเอียงเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นเป็นปัญหา วิธีแก้คือเวลานั่งให้เค้านั่งขัดสมาธิค่ะ สำหรับสุขภาพเท้าของมามิ แม่ได้รับคำชมว่าดูแลสุขภาพเท้าของหนูได้เป็นอย่างดี เปลี่ยนรองเท้าใหม่ให้หนูเมื่อคู่เก่าคับแล้วค่ะ
เท้าแบน
เวลาเลือกรองเท้า เริ่มจากวัดความยาวของเท้า ซึ่งต้องยืนวัดเท้า เพื่อให้เท้าได้ขยายเต็มที่ถึงจะได้ขนาดที่แท้จริงของเท้า อย่างของมามิถ้านั่งวัดขนาดเท้า จะได้ 15 cm แต่ถ้ายืนจะเพิ่มขึ้นมาอีกครี่งเซนต์ มามิเลือกได้รองเท้าผ้าใบสีชมพูแบบหุ้มข้อเท้านิดนึง เพื่อช่วยในการทรงตัวเวลาเดิน ถูกใจมากๆ เลยค่ะ พอดีไม่ได้เตรียมถุงเท้าไปด้วย ก็เลยได้ถุงเท้า Antibacterial มาอีก 1 คู่ค่ะ ใส่แล้วไม่มีกลิ่นอับ เท้าไม่เหม็นด้วยค่ะ
วัดความยาวของเท้าก่อนเลือกรองเท้า
หลังจากแม่และมามิได้รองเท้าที่ถูกใจแล้วก็ถึงตาของปะป๊าแล้ว ปัญหาของปะป๊าเป็นเหมือนกันกับมามิคือ เท้าแบน จนคุณเกรียงไกรแซวว่า มามิได้พ่อมานี่เอง รองเท้าที่ปะป๊าใส่อยู่นั้นใส่สบายอยู่แล้ว แค่ใช้แผ่นเสริมรองรับอุ้งเท้า Universal Flatfoot มาสอดใต้เท้าเท่านั้นเอง ทำให้น้ำหนักเท้าไม่กดมาที่นิ้วโป้ง แค่นี้ก็รู้สึกสบายเท้าขึ้นมาเลย ปะป๊าแฮปปี้มากๆ เลย
รองเท้าคู่สวยของมามิ ได้รองเท้าใหม่คนละคู่ค่ะ
มาดูกันชัดๆ นะคะ
อ๊ะ อ๊ะ อย่านะ ยังเหลือเจ้าตัวเล็กอีกคน วันนี้พาโมโม่น้อยมาด้วย เป็นครั้งแรกที่เรา 4 คนออกจากบ้านพร้อมกัน ถึงแม้จะไม่มีรองเท้าจิ๋วสำหรับเด็ก 2 เดือนแบบโมโม่ แต่…ก็ได้เป็นถุงเท้า Antibacterial มา 3 คู่ค่ะ เด็กเบบี๋จะชอบถีบขา ขาและเท้าจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่ว่าจะใส่ถุงเท้าคู่ไหน ใส่ได้แป๊บๆ หลุดออกมาตลอด กลางคืนต้องคอยตื่นมาดู แล้วก็ใส่ใหม่ ใส่แล้วใส่อีก วันละหลายรอบเลยแหละ ข้อดีของถุงเท้า Dr.Kong คือ ต่อให้ถีบเก่งแค่ไหน ไม่มีหลุดค่ะ
หลังจากนั้นก็นั่งพูดคุยกับคุณเกรียงไกร เรื่องเด็กที่มีปัญหาเรื่องเท้าส่วนใหญ่ จะไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อวัดเท้า ตัดรองเท้า ซึ่งต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะได้พบหมอ กว่าจะได้รองเท้ามา 1 คู่ แพงด้วย แถมรองเท้าที่หมอตัดให้ก็เป็นแบบธรรมดา สีดำ สีน้ำตาลไม่สวยเลย และเด็กบางคนมีปัญหาเรื่องเท้า แต่พ่อแม่ละเลย เพราะคิดว่ารองเท้าดีๆ นั้นราคาแพง ซื้อให้ใส่ไปก็ไม่คุ้ม ก็เลยอยากจะบอกกับพ่อๆ แม่ๆ ว่าลองพาลูกมาที่ร้าน มาพูดคุยกับพนักงานที่ร้านดูก่อนค่ะ ทางร้านจะมีข้อแนะนำดีๆ ให้ค่ะ ถ้าชอบก็ลองเลือกซื้อไปซักคู่นะคะ รองเท้าของ Dr. Kong ทุกคู่ออกแบบโดยแพทย์ผู้ชำนาญเกี่ยวกับเรื่องกระดูกค่ะ
ตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับเปิดเทอมด้วยนะ ติดตามรายละเอียดได้ที่นี่นะคะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=dr-kong&date=25-04-2012&group=3&gblog=29
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้าสุขภาพ ปัญหาสุขภาพเท้า และการดูแลเท้า หรือกำลังหารองเท้าสุขภาพดีๆ ซักคู่ เข้าไปเยี่ยมชม เว็บไซต์ของ Dr.Kong ได้ที่ : http://www.dr-kong.in.th หรือที่ Facebook : http://www.facebook.com/DR.KONGFOOTCARE ค่ะ
สำหรับมามิแล้วสงสัยต้องโดนอีกคู่ แต่เป็นรองเท้านักเรียนนะ เพราะตอนนี้มามิกำลังเปิดเทอม จะได้ใส่ไปโรงเรียนทุกวัน จะได้เดิน ได้เล่น ได้ออกกำลังมากขึ้น ที่สำคัญจะได้ไม่ร้องให้อุ้ม สบายพ่อ แม่
โชว์รองเท้าคู่ใหม่ให้นานะดู ถ่ายรูปคู่กับหนุ่มหล่อที่มาให้ความรู้กับเรา
ถามว่าซื้อรองเท้าแฟชั่นสวยๆ ในเน็ตให้ลูกไม๊ ? ซื้อค่ะ
ซื้อรองเท้าตามเต้นท์ ตลาดนัด และข้างทางให้ลูกใส่ไม๊? ซื้อให้ใส่ค่ะ
ซื้อรองเท้าตามเต้นท์ ตลาดนัด และข้างทางให้ลูกใส่ไม๊? ซื้อให้ใส่ค่ะ
ก็เหมือนกับแม่ๆ ที่มีลูกสาวทุกคนแหละค่ะ เห็นรองเท้าคู่ไหนสวย เริ่ด ถูกใจ ไม่ว่าจะจากแหล่งไหน ราคาถูก ราคาแพง สอยมาหมด รองเท้าสวยๆ เอาไว้ใส่เดินห้างเฉิดฉาย เดินแค่แป๊บๆ ไม่ได้ไปลุยอะไรมากมาย แต่ถึงเวลาต้องลุย เวลาที่เท้าต้องรับบทหนัก…ก็จะไม่ลืมเลือกรองเท้าดีๆ ไว้ให้ลูก ซักคู่ หรือสองคู่ ให้เค้าเวลาต้องไปออกกำลัง เช่น วิ่งเล่น ปั่นจักยาน หรือวันไหนที่ต้องไปเดินไกลๆ เพราะสุขภาพเท้าเจ้าตัวเล็กก็สำคัญ เมื่อเค้าต้องใช้งานมันหนักก็ควรจะเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายที่สุด ราคาอาจจะสูงนิดนึงแต่เมื่อมองไปในระยะยาว ใช้ได้ทน ใช้ได้นานก็เกินคุ้มค่ะ
ได้โอกาสออกจากบ้านพร้อมหน้าทั้งทีขากลับเลยแวะหาอาม่าที่บ้านลาดพร้าวซะเลย หลังจากที่ไม่ได้มานานมาก พอมาถึงมามิอยากไปว่ายน้ำ แต่ไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมาให้ ก็เลยให้เปลี่ยนกางเกงไปเล่นสไลเดอร์ที่สนามเด็กเล่นแทน สวมรองเท้าคู่ใหม่ไปวิ่งเล่นกับพี่ๆ สนุกสนานเลย พอตอนจะกลับบ้านปะป๊าหยิบรองเท้าใหม่ไปเก็บที่รถ พอจะเดินออกจากบ้านมามิถามใหญ่เลย รองเท้าผ้าใบหนูหายไปไหน? ท่าทางจะชอบจริงๆ มันใส่สบายใช่ไม๊ล่ะ
มามิจะชอบให้แม่พาเดินไปเซเว่น พาเดินไปตลาดนัด
เวลาได้เดินจับมือเคียงข้างไปกับแม่ มามิจะมีความสุขมาก
แม่รับรู้ได้เมื่อเวลาที่แม่เดินจูงมือหนู
หนูจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตาแม่แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
หนูจะคอยเงยหน้าขึ้นมาสบตาแม่แล้วยิ้มให้ตลอดทาง
รอยยิ้มนั้นประทับใจแม่จริงๆ
แต่ละย่างก้าวที่เค้าเดินไปพร้อมกับเรานั้นเราก้าวเท้าไป 1 ก้าว
เจ้าตัวเล็กต้องสาวเท้า 2-3 ก้าวเพื่อให้เดินเคียงข้างไปกับเราในทุกที่
อยากให้หนูเดินเคียงข้างแม่แบบนี้ตลอดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น