วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Paris Je T'aime Nov 21, '07 7:55 AM

18 หนังสั้น ...จาก 20 ผู้กำกับมีชื่อ และฝีมือ ที่ต่างเรื่องต่างก็มีเวลาการดำเนินเรื่องอย่างจำกัด แค่ประมาณ 5 นาที เท่านั้น ใช้คอนเซปต์การคิด ทำ และสร้าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันว่า 'ปารีส' และ 'ความรัก' รวมเป็น 1 หนังยาว ที่ใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า 'Paris Je T'aime'  หนังสั้นที่ถูกวางเรื่องราวทั้งหมดให้เกิดขึ้นในมหานครที่ได้ขึ้นชื่อว่า 'เมืองแห่งความรัก' ...ทุกอย่างจะเริ่มต้นที่นี่ และจบลงที่นี่ ที่ปารีส ที่เดียวเท่านั้น

ในแต่ละเรื่อง ต่างจะเลือกใช้สถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น เป็นที่รู้จัก แตกต่างกันออกไป และในแต่ละที่นั้น ก็จะอยู่ในเขตเมืองที่แตกต่างกันอีกด้วย จะว่าด้วยเรื่องของความรักในรูปแบบต่างๆ ที่อาจจะได้รับกลิ่นอายของหนังเมืองผู้ดี 'Love Actually' มาอยู่บ้าง แต่การนำเสนอก็ยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจะแยกเรื่องราวออกจากกัน จะไม่มีส่วนใดในอีกเรื่องที่มีความผูกพันเป็นพิเศษกับอีกเรื่อง และ เรื่องทุกเรื่องที่เริ่มและจบลงในห้านาทีนั้นจะไม่มีความต่อเนื่องเกี่ยวข้องกันไปในเรื่องถัดๆไป นำเสนอความรักที่มีทั้งแบบสุข เศร้า เหงา ฮา ปะปนกันไป ...ซึ่งมีความรักเป็นคู่ทั้งแบบที่ธรรมดาสามัญถูกครรลอง และรักแอบจิต ผิดธรรมดา

1. Montmartre : อุบัติเหตุรัก บางวันอาจจะเป็นวันแย่ๆ ที่น่าเบื่อ แต่คุณไม่รู้หรอกว่าบางครั้งเรื่องดีดีอาจจะรอเราอยู่ก็ได้
2. Quais de Seine : รักสดใส วัยแรกพบของไอ้หนุ่มนักแซวสาวที่วันนึงได้พบกับสาวอาหรับที่ทำให้เขารู้ว่าจริงๆ แล้ว รักเป็นเช่นไร
3. Le Marais : เรื่องรัก 5 นาทีของเด็กหนุ่มที่พยายามจีบอีกเด็กหนุ่ม จบแบบหักมุมได้น่ารักมากๆ
4. Tuileries : นักท่องเที่ยวอเมริกันกำลังนั่งพักในสถานีรถใต้ดิน ดูเขาจะมีความสุขกับการมาเมืองใหม่ๆ เช่นปารีส แต่แล้วเขากลับทำผิดคำแนะนำที่คู่มือนักท่องเที่ยว บอกไว้ อย่าสบตาคนฝรั่งเศส ผลลัพธ์จึงตามมาด้วย ความซวยแสนเซ็ง
5. Loin du 16ème : แม่คนนึงในย่านยากจน ต้องเอาลูกไปฝากไว้ที่สถานเลี้ยงเด็ก เพื่อจะไปเป็นพี่เลี้ยงเลี้ยงลูกของคนอื่นที่ร่ำรวย ตอนนี้เนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไร แต่อารมณ์มันโดนมาก
6. Porte de Choisy : (หรรษาในปารีส) ที่ตอนดูได้แต่สงสัยว่า "มรึงเมายามากำกับเหรอไง" เป็นอะไรที่ติสต์ เซอร์ และเข้าไม่ถึงตอน อ้ายหนี่ เซลล์ ขายของ ไปร้านคนจีน มีภาษาไทย ใส่ไปด้วย ไม่รู้ว่าจะใส่ไปทำไมฟ่ะ
7. Bastille : (การเกิดใหม่ของความรัก) ผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะบอกเลิกภรรยาเพื่อไปอยู่กับเมียน้อย ก่อนจะพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย  'เขา' กำลังจะบอกเลิกกับ 'เธอ' แต่ด้วยเหตุบางอย่างที่สอดแทรกเข้ามา การบอกเลิกจึงต้องเปลี่ยนไป แล้ว ความรักก็ผลิบานครั้งใหม่อีกครั้ง
8 Place des Victoires : แม่คนหนึ่งที่ทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกชาย ในคืนนึงที่เธอต้องปล่อยวางและยอมรับความจริงซักที
9. Tour Eiffel : เล่าเรื่องราวของเด็กคนนึงที่บอกว่าพ่อแม่ตัวตลกหน้าขาวของเค้าเจอกันในคุกได้ยังไง
10. Parc Monceau : ตอนนี้ด้วยเรื่องราวที่แทบไม่มีอะไร แค่พ่อลูกมาเจอกันแล้วเดินคุยกันถึงปัญหาในชีวิต ก่อนที่จะเฉลยตอนจบ ทำให้คนดูอมยิ้ม
11. Quartier des Enfants Rouges : นักแสดงขี้เมา ที่ในคืนเหงาๆ คืนนึงได้พบกับพ่อค้ายา นอกจากจะเป็นพ่อค้าลูกค้ากันแล้ว ในคืนนี้เธอยังอยากให้เค้ามาเติมเต็มความเหงาให้อีกด้วย
12. Place des Fêtes : เป็นตอนที่เลี่ยน และมีมุกจีบสาวเสร่อๆประมาณว่า “ ให้ผมนวดขามั้ย คุณน่าจะปวดขา” พอผู้หญิงถามว่าทำไมชั้นต้องปวดขา ผู้ชายก็ตอบว่า "ก็เพราะคุณมาวิ่งอยู่ในหัวใจผมทั้งคืน" เลี่ยน และเสร่อเป็นที่สุด
13. Pigalle : คู่รักวัยดึก ที่พยายามหาทางสร้างความซู่ซ่าให้ชีวิตคู่ให้คนเอง
14. Quartier de la Madeleine : ชายหนุ่มคนนึง หลงรักสาว vampire ไม่ต้องมีคำพูดซักคำ แต่ใช้ความเจ๋งด้านภาพ ที่เหมือนหนังนัวร์ยุค 60 พร้อมดนตรีประกอบที่หลอนนิดๆ
15. Père-Lachaise : คู่หมั้นชาวอังกฤษที่ไปเที่ยวสุสาน แล้วก็เกิดการไม่เข้าใจกัน นักท่องเที่ยวคู่รักหนุ่มสาวสองคนท่องเที่ยวปารีส แล้วความไม่เข้ากัน วิญญาณดวงหนึ่งช่วยให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจ หนังเล่าปัญหาความสัมพันธ์ที่พบกันได้บ่อยๆ แบบเบาๆ
16. Faubourg Saint-Denis : ชายตาบอดพบรักนักแสดงสาวหน้าใหม่ ความรักดำเนินไปไวปานกดปุ่ม FF เราจะได้เห็นตั้งแต่แรกรักจนแยกจาก ก่อนจะตีตลบกลับมาอีกครั้ง
17. Quartier Latin : อดีตคู่รักวัยดึกที่นัดเจอกัน  บอกเล่าเรื่องราวของคู่นี้ที่แม้ยังรักกันอยู่ ยังเหลือเยื่อใย แต่ด้วยความที่ผ่านอะไรมามากเกินไปทำให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ แค่คน 2 คนนั่งคุยกัน ด้วยท่าทีที่รู้เท่าทันกัน และบทสนทนาที่จิกกัดฝ่ายตรงข้ามได้เหวอะหวะสะใจคนดู
18. 14ème Arrondissement :(ปารีสและตัวฉัน) ผู้หญิงอเมริกันคนนึงตั้งใจมาปารีสมากขนาดเก็บเงินและเรียนภาษาฝรั่งเศส 2 ปี เดินชมเมือง พร้อมบรรยายด้วยภาษาฝรั่งเศสที่เรียบเฉยไร้อารมณ์ แต่มันกลับสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูยิ่งนัก

เรื่องราวทั้งหมดได้ไปอ่าน และนำมาจาก blog ของ คุณ โขมงโฉงเฉง ซึ่งเขียนไว้ได้ดีมาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tatar

ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะว่า ได้ดูหนังเรื่องนี้ไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้รับรู้เรื่องราวเรื่องหนึ่งที่คล้ายกับ เรื่องที่ 7 Bastille เป็นเรื่องของเพื่อนพี่บิ้น เพื่อนคนนึงในกลุ่มมีเมียน้อย แล้วกำลังจะหย่ากับเมีย แต่เมียป่วยดันเป็นมะเร็ง ตอนนี้อาการหนักมากก็เลยหย่าไม่ได้ และเมียของเค้าก็รู้ว่าสามีของเค้าต้องการจะหย่า แต่ยังหย่าให้ไม่ได้เพราะตัวเองป่วยอยู่

เมียของเค้าซึ่งกำลังป่วยหนักใกล้ตาย แต่ก็ได้โทรไปบอกเมียน้อยว่าให้รอก่อนนะ อีกไม่นานเค้าก็จะตายแล้ว

คิดดู.....มันรันทด และทรมาณขนาดไหน ในขณะที่เรากำลังเผชิญหน้ากับความตาย แต่คนที่อยู่กับเรานั้นคนที่เรารักมากที่สุดนั้น ไม่เหลือความรักให้เราแล้ว และพร้อมที่จะลืมเราหลังจากที่เราได้ตายไปแล้ว ช่างน่าเศร้าจริงๆ

เรื่องราวมันมีส่วนคล้ายกัน แต่ตอนจบมันคงต่างกัน ในเรื่อง Bastille สามีได้ไปบอกเลิกกับกิ๊ก แล้วกลับมาดีกับภรรยา รักภรรยาดังเดิม และแล้วภรรยาได้ตายไปในอ้อมกอดที่เปี่ยมไปด้วยรักของสามี แล้วสามีก็ไม่สามารถรักใครได้เลยหลังจากที่ภรรยาของเค้าได้ตายไป

พี่บิ้นเล่าเรื่องของคู่นี้ให้ฟังว่า ฝ่ายผู้ชายไม่ได้รักเมียเค้าเท่าไหร่ ตอนหนุ่มๆ ก็มองผู้หญิงไปเรื่อยๆ เลือกไปเรื่อย จนพออายุเยอะขึ้นก็คิดว่าคงถึงเวลาที่จะแต่งงานซักที ก็เลยตัดสินใจแต่งงานกับภรรยาของเค้า
ประมาณว่าเอาวะ คนนี้ก็ได้ เพราะฝ่ายหญิงรักเค้ามานานแล้ว และรักมาตลอด ทั้งสองก็เลยแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานก็มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ไม่นานมานี้ผู้ชายก็เปลี่ยนไปไปพบรักใหม่ แล้วมีเมียน้อย ก็เลยจะขอหย่ากับภรรยาแล้วก็มาเกิดเรื่องที่ไม่ได้หย่าได้ดังใจ เพราะภรรยาป่วยใกล้ตายนี่เอง

น่าสงสารลูกนะ...ในเมื่อไม่รักกันจริง...ในเมื่อไม่พร้อม...จะให้เด็กคนนึงเกิดมาทำไม.....ให้เค้าเกิดมาเจอปัญหาทำไมนะ

ทำไม...ความรักของผู้ชายบางคน...มันช่างหมดไปเร็วแบบนี้
ทำไม...พอผู้หญิงแก่ลง...ไม่มีเวลาเอาใจ...เนื่องจากต้องใช้เวลาไปดูแลลูก พอผู้ชาย(บางคน)ไปเจอเอ๊าะๆ ช่างฉอเลาะเอาใจ ก็เปลี่ยนใจ หมดรักมันทั้งแม่ทั้งลูกซะงั้น

ตอนนี้เพื่อนพี่บิ้นหลายคน...หรือจะว่าไปแล้วเกือบทุกคนที่เรารู้จัก มีเมียน้อย!!!  มันเป็นค่านิยมใหม่ หรือเป็นเพราะว่าผู้หญิงมันมีเยอะกว่าผู้ชาย แล้วผู้ชายก็หันไปจับคู่กับผู้ชายกันเองซะเยอะ เลยทำให้ผู้หญิงต้องมาใช้ผู้ชายจริงๆ ร่วมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น