วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แต่งหน้าบนรถไฟใต้ดิน Oct 24, '07 10:04 AM

เมื่อเช้านั่งรถไฟใต้ดินมองเห็นผู้หญิงคนเดิมเจ้าประจำที่เห็นหลายครั้งแล้ว นั่งแต่งหน้า ทาลิปสติก ปัดแก้ม ปัดมาสคาร่าแบบไม่สนใจใคร เราขึ้นมาจากสถานีเพชรบุรี จนถึงสีลมก็เห็นหล่อนนั่งปัดมาสคาร่า อ้าปากตลอดเวลา แต่งหน้าแบบครบคอร์สเลยแหละ
วันนี้ดันเป็นโรคติดต่อด้วยอ่ะดิ เพราะมีผู้หญิงอีกคนที่นั่งตรงข้ามกันเป๊ะเลย อดรนทนไม่ไหว ควักมาสคาร่าออกมาปัดมั่ง นั่งอ้า (ปาก) ไป ปัดไปแบบไม่สนใจใครเหมือนกันเด๊ะ เหมือนมองภาพสะท้อนของกันและกันเลยว่างั้น


ไอ้เราก็นั่งใกล้ๆ แอบมองก็เพลินดี คิดอยู่ในใจ สองคนนี่มันมาด้วยกันหรือเปล่าหว่า ช่างกล้าจริงๆ แฮะ เราเองแค่จะควักลิปมันออกมาทาปากยังแอบๆ เลย ให้มานั่งแต่งหน้าแบบนั้น ทำใจไม่ได้จริงๆ อ่ะ อดคิดไม่ได้ว่า ถ้ารถมันเกิดเบรคกระทันหัน ซึ่งรถไฟใต้ดินโอกาสมันก็คงน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิด แล้วไอ้ที่ใช้ๆ ปัดขนตาน่ะมันเกิดจิ้มเข้าไปในตา เกิดร้องจ๊ากขึ้นมา ตาบอด คนจะเข้าไปช่วย หรือสมน้ำหน้ากันวะนั่น

มานั่งคิดดูนะว่า ถ้าเป็นเราเอง มันจำเป็นต้องแต่งหน้าจริงๆ ก็ตื่นให้เช้าหน่อย แต่งมาจากบ้านให้เรียบร้อย หรือไม่ทันจริงๆ ก็เอาว่าผัดแป้งมานิดหน่อย เติมปากนิดนึง แล้วขึ้นรถมา ถึงออฟฟิศ หรือไปถึงงานก็แว๊บไปห้องน้ำก่อน เพื่อจัดการธุระตัวเองให้เรียบร้อยในที่ที่มันเป็นที่ส่วนตัวหน่อยก็น่าจะดีกว่านะ แล้วเราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบแต่งหน้าซะด้วยสิ เลยไม่เข้าใจว่า ถ้าไม่ได้แต่งหน้าหนาๆ ปัดมาสคาร่าทุกวันมันจะเป็นงัย แต่ให้แต่งในที่สาธารณะแบบนั้น ทำใจไม่ได้จริงๆ แบบว่าหน้าบางอ่ะ

"การแต่งหน้าทาปากในขณะโดยสารรถไฟฟ้า ถ้ามองกันจริงๆ แล้วการแต่งหน้าก็เป็นการทำกิจกรรมอย่างเงียบๆ ไม่มีเสียงหรือกลิ่นรบกวน ไม่น่าจะแตกต่างจากการอ่านหนังสือ หรือการเสียบหูฟังฟังเพลงแต่อย่างใด แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ถือว่าการแต่งหน้าไม่พึงกระทำในที่สาธารณะ เป็นเรื่องที่สาวๆ ญี่ปุ่นพึงละอายที่แต่งหน้า เพราะรถไฟไม่ใช่ในบ้านของตน หรือห้องน้ำที่จะแต่งหน้าทาปากโดยไม่สนใจใคร"
ไม่ใช่แต่รถไฟใต้ดินนะ บน BTS ก็มี พี่บิ้นเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนึงบน BTS นั่งแต่งหน้าบนรถแบบครบคอร์สแบบไม่สนใจใคร แต่งหน้าเสร็จคว้าตุ้มหูมาใส่อีกต่างหาก โอ้ววว...ทำไปได้ เดี๋ยวนี้คนเรามันรีบเร่งอะไรกันขนาดนี้เลยเหรอ ถึงขนาดไม่มีเวลาแม้แต่แต่งหน้า จนต้องมาแต่งกันบนรถไฟฟ้าเนี่ย

พอถึงสถานีสีลม เห็นผู้หญิงสองคนต่างคนต่างเดินไปคนละทาง เออ..มันไม่รู้จักกันแฮะ เลยเข้าใจว่า มันเป็นโรคติดต่อจริงๆ ด้วย โรคนี้น่ากลัวมั๊กๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น