Hong Kong 3rd Day - Disney Land Aug 21, '07 6:40 AM

วันนี้ตื่นเช้ามากินบะหมี่อีกเหมือนเคย เพราะไม่รู้ว่าช่วงเช้าๆ แบบนี้จะไปหาร้านกินที่ไหน แต่เล็งๆ ไว้แล้วล่ะมีอยู่ร้านนึงขายบะหมี่แต่เช้าเลย ใกล้ๆ MRT ที่เราไปขึ้นทุกวัน โปรแกรมวันนี้คือ Disneyland พอออกจากโรงแรมฝนก็ตกปรอยๆ เหมือนปกติ พี่บิ้นบอกเปลี่ยนใจไปที่อื่นแทนมะ ฝนตกแบบนี้เที่ยว Disney ไม่น่าจะสนุก เมื่อวานตอนช่วงเช้า ๆ ฝนก็ปรอยๆ แบบนี้แต่สายๆ ก็มีแดดออกมา ก็เลยบอกพี่บิ้นว่าลองไปดูก่อน ถ้าฝนฟ้าไม่เป็นใจก็ค่อยเปลี่ยนใจ

นั่ง MTR จากสถานี Jordan ไปลงที่สถานี Lai King เปลี่ยนเป็นสายสีส้มไปลงที่สถานี Sunny Bay พอใกล้จะถึงสถานี Sunny Bay จากวิ่งๆ อยู่ใต้ดินก็ขึ้นมาอยู่บนดิน และจากสถานี Sunny Bay เราก็จะขึ้นรถไฟฟ้าขบวนที่ไป Disneyland โดยเฉพาะเลย ปลายทาง Disneyland Resort รถไฟขบานที่จะไป Disney จะมีลักษณะพิเศษกว่ารถไฟธรรมดา หน้าต่างทุกบานจะเป็นรูปมิคกี้เมาส์ รวมทั้งที่จับเวลาเรายืนด้วย และที่นั่งก็จะบุนวมโค้งๆ เหมือนโซฟา รถไฟวิ่งแค่แป๊บเดียว ขึ้นไปปุ๊บก็ต้องรีบๆ ถ่ายรูปเก็บไว้

 

ไปถึงเดินเข้าไปตามถนนก็จะไปเจอน้ำพุเป็นมิคกี้เมส์เล่นเซิร์ฟบอร์ดอยู่บนปลาโลมา เลี้ยวขวาไปก็จะมีซุ้มขายบัตรผ่านประตู ช่วงที่เราไปเป็นช่วง peak พอดี เลยต้องจ่ายไป 350 เหรียญ เค้าบอกช่วงนี้เด็กบ้านเค้าปิดเทอมกัน ค่าบัตรผ่านประตูเลยแพง ปกติวันธรรมดาแค่ 290 เหรียญเอง พอซื้อบัตรผ่านประตูเข้าไปหยินแผนที่มาดูข้างในจะแบ่งเป็น 4 โซนใหญ่ มีตรงกลางเป็น Main Street USA อีกโซน เป็น Fantasy Land , Tomorrow Land และ Adventure Zone เอาวะมาถึงแล้วก็ต้องเข้าไปล่ะ หวังว่าฝนคงไม่ตกทั้งวันหรอกน่า

ก่อนอื่นเข้าไปก็จะเป็นบริเวณ Main Street U.S.A. ประกอบไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และจะมีรถ Omni Bus พาเราวนรอบ Main Street U.S.A.  มองดูแล้วไม่น่าสนุก ก็เลยไมได้ขึ้นไปนั่ง ได้แต่ถ่ายรูปเอาไว้ เดินเข้าไปใน Disney ฝนตกไม่ขาดสาย แต่ก็พอเดินไหวคว้าหมวกมาคนละใบเดินไปที่ Tomorrow land ก่อนเลย เห็นคนเข้าแถวตรง Space Moutain ไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เข้าไปต่อคิวเล่นเป็นอันแรกเลย มันส์มาก สนุกมากมาย ตอนรถจะวิ่งออกมาจากอุโมงค์มืดๆ จะมีแสง Flash วาบขึ้นมา เราไม่รู้ว่าเป็นอะไร มาถึงบางอ้อ ก็ตรงทางเดินออกมา จะมีรูปเราโชว์อยู่ มันแอบถ่ายเรานี่เอง แล้วเจ้าหน้าที่มันก็เดินเอาบัตรมาให้เรา ถ้าเราอยากได้ก็เอาบัตรไปขอรับรูปได้เลย ไม่ได้ถามว่าราคาเท่าไหร่ รูปออกมาไม่สวย เลยไม่เอา แต่อีตาฝรั่งคันต่อท้ายเรานี่ดิ มันคงรู้ว่ามีถ่ายรูปด้วย ดูรูปที่เค้าเอามาโชว์มันชูสองนิ้วเลยทีเดียวแหละ จาก Space Moutain ก็ไม่ได้เล่นอะไรต่อเดินแกร่วอยู่แถวนั้น ถ่ายรูป จะเล่นอะไรคนก็เยอะไปหมด


 

จากนั้นก็ไปต่อกันที่ Adventure Zone เดินเข้าไปปุ๊บที่สะดุดตา และอยากจะเข้าไปเล่นก็คือบ้านทาร์ซาน (Tarzan's Tree House) นั่นเอง ลักษณะที่โดดเด่นคือ เป็นบ้านที่อยู่บนต้นไม้ขนาดยักษ์ สูงราวๆ ตึก 4 ชั้น ตั้งอยู่กลางแม่น้ำที่ใช้ล่องเรือ Jungle Cruise ทางเข้าออกบ้านนี้มีทางเดียว ซึ่งต้องล่องแพเข้าไปค่ะ ใช้เวลาแป๊บเดียว เหมือนเรือข้ามฝาก ทันทีที่ข้ามไปถึงเกาะที่ตั้งบ้านทาร์ซาน จะได้ยินเสียงเพลงประกอบท่วงทำนองป่าอเมซอน ต้นไม้ทั้งต้นนี้ ทำเทียมมาหมดเลย ตัวต้นไม้ทำด้วยปูนเคลือบด้วยเปลือกไม้พลาสติก ส่วนใบใม้ทำด้วยพลาสติดล้วนๆ  เหมือนจริงมากๆ จนน่าทึ่ง

ตั้งใจจะล่องเรือกับ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ซะหน่อย แต่ดูๆ แล้วได้เวลาโชว์พอดี เป็น Festival of The Lion King เป็นภาษาอังกฤษ อลังการมาก เพลงเพราะ เค้าทำโชว์ได้ดีจริงๆ สิงโตร้องเพลงลิปซิงปากตรงด้วยนะ แถมตัวยีราฟคอยาวๆ ก็ลิปซิงได้ตรงอีกต่างหาก คนเข้าไปดูเยอะมาก ระหว่างโชว์เค้าอนุญาตให้ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลช แต่เจ้าหน้าที่ต้องคอยวิ่งไปห้ามตลอดช่วงที่เริ่มโชว์ เพราแฟลชวูบวาบๆ เชียว เราถ่ายรูป ถ่ายคลิปมาเยอะเหมือนกัน โชว์เริ่มเที่ยงวัน จบตอนเที่ยงครึ่ง แค่ครึ่งชั่วโมงเอง

หลังจากโชว์จบแล้วก็ได้เวลาพาเหรดซึ่งจะอยู่บริเวณ Main Street ซึ่งพาเหรดจะมีวันละ 2 รอบ คือ บ่ายโมงตรง และบ่ายสามครึ่งของทุกวัน เราเลยรีบเดินไปจองที่ด้านหน้าเตรียมดูพาเหรด มีป้ายวางไว้ด้วยว่า You Will Get Wet ข้างๆ เราด้วย นี่ฝนตกเปียกแล้ว ยังจะฉีดนำกันอีกเหรอเนี่ย ซักพักขบวนพาเหรดก็มามีเจ้าหน้าทีเดินมาบอกเราว่า ระวังกล้องถ่ายรูปเปียกน้ำด้วยนะ เราก็ยืนอยู่ด้านหน้าเลย ตัวการ์ตูนต่าง ๆ ก็พากันมาเดินให้เราได้ชมหมดทุกตัวเลย ไม่ว่าจะเป็น มิคกี้ มินนี่ พูแบร์ โดนัลดั๊ก มากันครบหมด น่ารักมาก แถมแต่ละขบวนที่มาถึงก็ฉีดน้ำพ่นน้ำให้ผู้ชมที่คอยยืนชมอยู่ตลอดทาง มิน่าล่ะมีป้ายเตือนไว้ แถมมีเจ้าหน้าที่คอยเดินบอก เพราะกลัวกล้องเราเปียกนี่เอง เปียกฝนยังไม่พอ ยังโดนฉีดน้ำเปียกปอนไปอีก ตั้งใจว่ารอบบ่ายสามครึ่งจะมาดูอีกรอบ

 

ดูขบวนพาเหรดเสร็จก็หิว ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วล่ะสิ ก็เลยเดินกลับไปหาอะไรกินตรงร้านใน Adventure Zone ตอนนี้นี่เองฝนเริ่มตกลงมาแรงขึ้นอีก คนที่ร้านอาหารก็แน่นแย่งที่นั่งกัน เราก็ไปเล่นเก้าอี้ดนตรีแย่งมาจากอีตาจีนคนนึง เรายืนรออยู่แท้ๆ พอคนลุกปุ๊บมันเข้ามาแย่งเลย รีบวิ่งไปบอกพี่บิ้นว่าโดนแย่ง พี่บิ้นเดินไปเลยแย่งกลับโดยการนั่งหน้าตาเฉย เรียกเรานั่งลงด้วย มันก็เลยถอยทัพไป เพราะมันยังไม่ทันนั่งแค่ยืนเอาร่มจิ้มไว้ อาหารก็เป็นบะหมี่อีกตามเคย ราคา 45 เหรียญ ไม่ถูกเลยนะ แต่ทำงัย หิวแล้วอ่ะ ก็ต้องกิน

กินข้าวเสร็จฝนก็ยังตกหนักคราวนี้แค่หมวกเอาไม่อยู่แล้ว ก็เลยต้องควักเสื้อกันฝนมาใส่กันเลยทีเดียว เดินย้อนกลับไปที่ท่าเรืออยากจะไปนั่งเรือกับ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ปรากฏว่า โซนที่ต้องนั่งเรือปิดให้บริการไปหมดเลย บ้านต้นไม้ก็ปิดไปแล้วด้วย ก็เลยเดินแกร่วไปมาแถวนั้น เห็นกัปตันแจ็คเดินถือร่มไปมาๆ ซะแล้ว หาคนมาเป็นกัปตันแจ็คได้เหมือนมากมาย แถมเวลาเดินไปเดินมานิ้วก้อยจะเด้งๆ ตลอดเวลาด้วย เดินต่อไปที่ Tomorrow Land ไปต่อคิวเล่น Adventures of Winnie the Pooh คิวยาวมาก ตอนเข้าคิวแรกๆ นึกว่าไม่ยาว แต่ปรากฏว่าเดินเข้าไปข้างในมันไปวนอีกรอบนึงกว่าจะได้นั่ง แต่อุตสาห์เข้าคิวแล้วก็ต้องเล่นแหละ พอเข้าไปเค้าก็ให้เรานั่งบนรถรูปเลื่อนไปเรื่อยๆ โดยมีปืนเลเซอร์คนละกระบอกไว้คอยยิงเป้าซึ่งจะอยู่ทั้งด้านซ้าย ด้านขวา และด้านบน เพื่อเก็บคะแนน อันนี้ตอนออกมาก็มีแอบถ่ายเราอีกเหมือนกัน อยากได้รูป ก็ไปติดต่อเคาท์เตอร์ได้เลย

ออกมาจาก Winnie the Pooh ก็มาถึงตรงที่มีการแสดงของมิคกี้เมาส์ Mickey PhilharMagic และการแสดงชุด The Golden Mickey ที่รวบรวมเอาตัวละครแทบทั้งหมดของดิสนีย์มาโชว์ไว้ในชุดเดียว  เป็นโรงหนัง 4 มิติ เพราะมีทั้งลม, กลิ่น, เสียง,ภาพ มีน้ำกระจายมาโดนหน้าด้วย ก่อนเข้าเค้าจะให้หยิบแว่นตาก่อน พอหนังเริ่มฉายก็ต้องสวมแว่นตาดู ตอนทำอาหารก็มีกลิ่นอาหารลอยมาหอมๆ ตัวการ์ตูนกระโดลงน้ำ ก็มีน้ำฉีดมาที่หน้าเราด้วย สนุกดี มีตัวการ์ตูนมาอลยๆ อยู่ตรงหน้าเราใกล้มาก เด็กๆ พากันเอามือคว้าใหญ่เลยชอบอกชอบใจกันมาก เราเลยโดนคว้าหัวไปหลายทีอยู่เหมือนกัน เพราะข้างหลังเราเป็นเด็กๆ หมดเลย ขณะเข้าแถวรอดูนั้นก็ได้เวลาพาเหรดรอบสองมาพอดีเลย ก็จะเข้าไปดูโชว์แล้วอ่ะ ก็เลยอดดูเลย

จบโชว์แล้วก็เดินกลับไปแถว Fantacy Garden เค้าจะจัดเป็นสวนหย่อม มีซุ้มเป็นศาลากลมๆ แล้วจะมีตัวการ์ตูนมาประจำแต่ละซุ้มให้เราไปเข้าคิวรอถ่ายรูป ซุ้มแรกจะเป็น Minnie Mouse ถัดไปเป็น Pooh Bear เราเลือกไปที่ซุ้ม Micky Mouse ตอนเราไปตัวการ์ตูนยังไปพักอยู่แต่สังเกตตรงซุ้มเป็นสีนำเงินรูปมิกกี้ก็เลยเดาเอาว่าน่าจะใช่ และแล้วก็ใช่จริงๆ ด้วย มีมิคกี้เดินมาคนเข้าคิวอยู่ไม่เยอะ ตอนเราไปเราอยู่เป็นคนสุดท้ายของแถว พอมิคกี้มาก็เริ่มมีคนเดินมาต่อแถว แต่ที่หงุดหงุดคือ มีอาม่าคนนึงพยายามจะพูดกับเราเป็นภาษาจีนซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง เราก็ไม่ได้ตอบ เราก็ยืนคุยกันไม่ได้สนใจอาม่าก็พยายามเบียดซ้าย เบียดขวาจะแซงให้ได้ อะไรวะ คนเค้ามายืนรอก่อนตั้งนาน ตัวเองมาทีหลัง แล้วมากันตั้ง 5 คน จะมาขอแซงไปได้งัยวะ เรากะพี่บิ้นก็ไม่สน ยืนกันไว้ไม่ไห้แซงได้ ก็แค่สองคนเองทำไมจะรอไม่ได้วะ จริงๆ เลย พูดถึงการเข้าคิวเนี่ย เจอทุกอันเลย คนคอยจะแซง จนมีครั้งนึงทนไม่ไหว พูดกับพี่บิ้นขึ้นมาว่า ชักเกลียดคนจีนแล้วสิวันนี้ พี่บิ้นบอกใจเย็นๆ เรามาเที่ยว ก็พยายามทำใจอยู่นะ มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้เหมือนกันนะ จริงๆ เลย คนก็เยอะ คิวก็ยาว ฝนก็ตก ดันจะมาแซงอีก และส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวก็มาจากจีนแผ่นดินใหญ่กันซะส่วนใหญ่เลยน่ะสิ

ถ่ายรูปกับ Micky Mouse เสร็จ ก็ไปดูซุ้มอื่นๆ คิวยาวทุกซุ้มเลย แถมถ่ายๆ ไปได้แป๊บเดียว ตัวการ์ตูนต้องกับไปพักอีกแล้ว ขี้เกียจรอก็เลยไม่ถ่ายตัวอื่นเลย เดินมาแกร่วนั่งกิบป๊อปคอร์น อยู่แถว Tomorrow Land ได้พักก็เดินกลับมาแถว Main Street ต่อ เดินซื้อของฝากใน shop ได้มาหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ตอนเข้ามาเห็นมีรถรางขับวนอยู่รอบๆ  ก็เลยไปขึ้นรถรางกัน รถรางจะเป็นแบบนั่งหันหน้ามาทางเดียวกันหมดคือหันหน้ามาทางฝั่งดิสนีย์แลนด์ เหมือนเรานั่งดูหนังประมาณนั้น รถจะขับวนรอบๆ ดิสนีย์แลนด์ ผ่านโซนต่างๆ ที่ชอบอยู่ โซนนึงคือ มีมนุษย์ต่างดาว 4 ตัวผลุบๆ โผล่มาแอบดูมาแอบถ่ายรูปเรา น่ารักดี นั่งรถรงเสร็จก็หมดแรงขาลากแล้วจะเดินต่อก็ไม่ไหว

ตอนแรกตั้งใจจะดูพลุ แต่กว่าจะมาก็ ปาเข้าไป 3 ทุ่ม รอไม่ไหวแน่ๆ ถ้ามีที่ให้นอนรอ ก็คงพอไหว แถมฝนก็ยังตกปรอยๆ ไม่เลิกอีก มอมแมมที่สุดเลยวันนี้ เที่ยวสวนสนุก ไม่สนุกก็ตรงฝนตกนี่แหละ เลือกวันได้ดีจริงๆ วันที่แดดดีๆ ดันไปเที่ยววัดซะนี่ วันนั้นก็จบตรงนั่งรถรางรอบดิสนีย์เสร็จก็เดินกลับมาถ่ายรูปกับน้ำพุก่อนกลับ เพราะตอนเข้ามาถึงไม่ได้ถ่าย เดินตรงไปซื้อบัตรเลย กลัวคนเยอะ รอคิวนานจริงๆ แล้วไปถึงก็ซื้อได้เลย เพราะมีซุ้มขายบัตรหลายจุดเหมือนกัน

ตอนจะออกจากประตูก็ให้เค้าปั๊มที่แขนไว้ เผื่อกลับเข้ามาดูพลุอีก แต่คิดว่าออกไปแล้วคงไม่กลับมาหรอก ปั๊มๆ ไปงั้นแหละ ตอนเค้าปั๊มมันก็เปียกนิด เห็นเป็นน้ำ ๆ แต่เดินไปซักพักมันก็แห้งแล้วเลือนไป มองไม่เห็น แล้วถ้าเรากลับมาจริงๆ แล้วเค้าจะดูหรือเปล่านะ แล้วเค้าจะมองเห็นเหรอ แล้วถ้าเราไปล้างมือมันไม่ถูกลบออกไปเหรอ หรือเค้าจะตรวจแค่บัตรเท่านั้นๆ แต่ปั๊มๆ ไปงั้นแหละ แล้วจะปั๊มทำไมล่ะ ยังเป็นคำถามในใจอยู่

จาก Disneyland ก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ จิมซาจุ่ย แล้วเดินย้อนลงมาประมาณ 10-15 นาที จะเป็น Ocean Terminal อยู่ตรงท่าเรือ Star Ferry ฝั่งเกาลูน ที่สังเกตุอยู่ติดกับ Marcopolo Hong Kong พากันไปเดินร้าน Toy R Us กันต่อ พี่บิ้นได้ของเล่นมาสองสามชิ้น ของเราก็ได้ของเล่นมา Puzzle มาฝากนาน่า แล้วลงมาซื้อตุ๊กตา Mimo ร้านขายของเล่นข้างล่างอีกตัว ก่อนออกมาสนุกสนานกับการหยอดเหรียญ ที่ตู้หยอดเหรียญได้ตุ๊กตามาหลายตัวอยู่ มันลุ้นสนุกดี จากร้าน Toy R Us ก็หมดแรง หิวด้วย เดินหาของกินกัน ก็ไปเจอร้านชื่อ Cafe De Coral ลักษะณะเป็น Food Court แต่ก็ดูดีมีระดับ ราคาไม่แพงมากพอรับได้ วันนี้อยากกินข้าวเพราะกินบะหมี่มาหลายวัน เลยสั่งเป็นข้าวกับไก่มากิน คล้ายๆ ข้าวมันไก่บ้านเราจานใหญ่มาก รสชาดก็งั้นแต่วันนี้หิวจัดกินหมดจานเลย กินเสร็จกลับเลย เหนื่อยและเพลียมากมายเลยวันนี้ ถึงโรงแรมอาบน้ำนอนสลบเหมือดไปเลย