เย็นนี้ก็เลยรีบออกจากโรงแรมเดินไปที่สถานี MTR Jordan ซึ่งใกล้ที่พักเราที่สุดเดินแป๊บเดียวเอง พักที่โรงแรม Mayfair Garden ห้องเล็กไปหน่อย แต่ก็สะอาดสะอ้านดี ไม่ได้อะไรมากแค่ซุกหัวนอนๆ วันก็คงตะลอนๆ เที่ยวไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรม นั่งรถไฟไปลงสถานีจิมซาจุ่ย ออกทางประตู D เจอเซเว่นเดินไปได้นิดนึงไปสะดุดตากับเมนูอาหารวางอยู่บนซอกตึกที่มีบันไดลงไปด้านล่าง ดูราคาและหน้าตาอาหารก็น่ากินดี ก็เลยตัดสินใจเดินลงไปกินกัน คนรับออเดอร์ก็ดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่พอก็เอาเมนูเป็นภาษาอังกฤษมาให้เราดู ได้บะหมี่คนละชามก็ชี้ๆ ตามรูปในเมนู พร้อมกับสั่งเกี๊ยวมาอีกชาม ก็คิดว่าชามเล็ก ปรากฏว่ามาถึงชามใหญ่มาก กินเสร็จเล่นเอาพุงกางไปเลย ดูเหมือนร้านนี้จะมีแต่คนแถวๆ นี้มากินกัน ไม่น่าจะมีนักท่องเที่ยวหลงลงมากมากมาย
กินเสร็จเดินต่อไปอีกหน่อยเป็นร้านขายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ จริงๆ พี่บิ้นตั้งใจจะมาร้านนี้เพื่อซื้อขาตั้งกล้องไปถ่าย Symphony of Light ค่ำนี้ ร้านนี้กล้องเยอะมาก อุปกรณ์ก็เยอะสุดๆ ทั้งขาตั้งกล้อง เลนส์ กระเป๋า พวกที่ชอบถ่ายรูปเข้าไปร้านนี้ต้องอยู่ได้นานเลย เหมือนตาโรบิ้นของเรา แต่ก็ไม่เห็นได้อะไรมา จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปทางเดิม ฝนเริ่มตกลงมาหนักขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ตกปรอยๆ อยู่ก่อนแล้ว ก็เลยแวะเข้าห้างเล็กๆ ห้างนึงขึ้นบันไดเลื่อนไปเจอร้านชื่อ Sasa ขายประเภทเครื่องสำอางน้ำหอม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงามต่างๆ เหมือนร้าน Boots หรือ Watson บ้านเรา จะเห็นทั้วไปตามท้องถนน หรือตามห้าง แต่ที่นี่มีน้ำหอม เครื่องสำอางแพงๆ ทุกยี่ห้อง ไม่ว่าจะเป็น เอสเต้ ลังโคม คลีนิค แต่ละอย่างสามารถดู ดม ทดลองได้หมดไม่ค่อยมีพนักงานมาคอยกวนใจ นอกจากเราจะเรียกมาถาม ไม่เหมือนบ้านเราเก็บไว้ในเคาน์เตอร์ซะอย่างดี จะดูจะดมแต่ละอย่างพนักงานต้องมาคอยหยิบคอยแนะนำให้ไม่ชอบเลย ก็ได้แต่ดูๆ ดมๆ ไปก่อน ยังไม่คิดจะซื้อเพราะเพิ่งจะไปถึงวันแรกเอง ต้องสำรวจตลาดก่อน แต่ก็เล็งครีมอาบน้ำวาสลีนขวดเบ้อเริ่มกะจะเอาไปใช้ที่แรงแรม เพราะมันถูกเอามากๆ เลย ขวด 250 มิล คิดเป็นเงินไทยไม่ถึง 45 บาท เป็นบ้านเราก็ร้อยกว่าบาทโน่นแหละ
เดินขึ้นไปอีกชั้นขายพวกเสื้อผ้า ของเล่น แต่ดูแล้วไม่ค่อยมีคนเดินเอาซะเลย ไปสะดุดตาร้านนึงเป็นร้านขายไหมพรม และอุปกรณ์สำหรับถัก เค้าถักตุ๊กตาตัวโตๆ วางโชว์ไว้เพียบเลย เป็นรูป Micky Mouse, Pooh Bear ตัวอะไรต่างๆ เยอะแยะไปหมด เห็นแล้วนึกถึงนู๋หิ่น ก็เลยคว้ากล้องออกมาถ่ายรูป เจ้าของร้านรีบเดินมาบอกว่าไม่ให้ถ่ายรูปมั๊ง พูดเป็นภาาจีนฟังไม่รู้เรื่อง ก็เลยรีบเก็บกล้อง ว๊าา เสียดายได้มารูปเดียว ก็เลยถามเค้าเป็นภาษาอังกฤษกลับไป ก็ทำหน้างงๆ แล้วก็ไปตะโกนเรียกอีกคนจากร้านข้างๆ มาช่วยตอบเรา ก็ได้ความว่า ร้านเค้าขายพวกอุปกรณ์ พวกไหม และรับสอนถักด้วย อืม..น่าสน ถ้ามีที่เมืองไทยก็อยากจะไปเรียนอยู่นะ
จากห้างนี้ก็เดินไปเรื่อยๆ ผ่านหน้าโรงแรมเพนนินซูล่า มีร้าน Louis Vuitton อยู่ด้านหน้าโรงแรม ก็เลยขอแวะเข้าไปดูหน่อย เพราะก่อนมานน้ำฝากดูกระเป๋ารุ่น Neverfull ซึ่งออกใหม่ พอจะเดินเข้าเท่านั้นแหละมันบอกให้รอคิวก่อน รอคนข้างในออกมาก่อนถึงจะเข้าได้ พอเข้าไปเดินหาไอ้กระเป๋ารุ่นที่จะดู ไม่เจอ ก็เลยถามพนักงานได้ความว่ารุ่นนี้ไม่มี ถมาราคาคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ สองหมื่นหนึ่ง ออกมาจากร้าน ตรงกันข้ามกับโรงแรมเป็น Hong Kong Space Museum ถ่ายรูปไว้คิดว่าเดี๋ยวว่างๆ จะแวะมาดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น