วันศุกร์มีความรู้สึกเหมือนไม่อยากทำงาน เปิ้ลขึ้นเอ็มว่าออฟฟิศร้าง ทีมจอร์ชไปงานแต่งงานน้องจ๋าที่ชุมพรเกือบหมด จริงๆ แล้วพวกเค้าอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ได้มีผล ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะแทบไม่ได้คุยกัน แทบไม่ได้ทำงานร่วมกัน เหมือนอยู่กันคนละโลกเลยว่างั้น ทั้งๆที่ทำงานเว็บเดียวกันแท้ๆ คิดแล้วก็แปลกดีเหมือนกัน นายเราบริหารงาน บริหารคนได้ดีมาก มีความสมานฉันท์กันเหลือเกิน เป็น Team Work ที่ดีสุดๆ นี่ยังจะรวมเว็บกัน ขนาดเว็บเดียวกันยังมีตั้งมีตั้งสองหลุ่มใหญ่ๆ แล้วนี่จะเอามารวมกัน เว็บน่ะคงรวมกันได้ แต่คนน่ะคงยาก
เลิกงานแล้วไปเดินงานไทยเที่ยวไทยที่ศูนย์ศิริกิตต์ ไปพร้อมกันหลายคนมี ริน หิ่น ปราง ปุ๋ย พอเดินเข้างานไปเจอพี่บิ้นพอดี ก็เลยแยกตัวไปเดินกะพี่บิ้น จองตั๋วเครื่องบินไป-กลับเชียงรายพฤหัสหน้า ถูกกว่าจองหน้าเว็บนิดหน่อย ก็พอไหว ดีกว่านั่งรถ ประหยัดเวลาไปเยอะ แถมไม่เหนื่อยด้วย คนเยอะจริงๆ เลย จอแพ็คเก็จทีลอซูมาด้วย 3 วัน 2 สองคืน มีรถรับส่งไปจากกรุงเทพด้วยราคาอยู่ที่ 3400 บาท เอาไว้ไปตอนช่วงหน้าหนาว คิดว่าถ้าชวนน้องๆ ที่ออฟฟิศคงไม่มีใครไปแน่ๆ เห็นแต่ละคนชอบไปแต่ทะเล ไปภูเขา น้ำตาก ลำบากๆ คงยาก ชวนพวกยี๊ไปน่าจะดีกว่า เพราะจองที่เหลาเลียงไว้ครั้งก่อนโน้น ยังไม่ได้ไปเลย ...
วันอาทิตย์ตั้งใจจะไปเดินอีกครั้ง จะออกไปช่วงบ่ายๆ แต่ฝนดันตก เลยมานั่งอ่านกระทู้ในห้อง Blue เค้ามีแนะนำการซื้อ Package ในงานด้วย อ่านแล้วก็ค่อนข้างเห็นด้วยนะ
1. อย่าซื้อ Voucher ใด ๆ เพราะเห็นว่า "ถูก"
เพราะของถูกอย่างไร ถ้าเราไม่ได้ใช้เลย ก็เป็นของแพงอยู่ดี ตอนซื้อเรามักจะคิดในใจว่า "เงินแค่นี้เอง ซื้อไว้ก่อนไม่เสียหาย ไม่ซื้อตอนนี้เดี๋ยวไม่มีโอกาสได้ซื้อ เพราะงานเขาจัดแค่ 3 วันเอง" ซึ่งไม่เป็นความจริงครับ เพราะผมพบว่าหลายครั้งที่งานยุ่งมาก จนไม่สามารถเจียดเวลาไปใช้ Voucher ที่ซื้อมาได้ จนสุดท้าย Voucher นั้นก็หมดอายุหรือบางทีเรามีเวลา แต่เพื่อน หรือแฟน หรือคนในครอบครัวที่เราจะพาไปด้วยไม่ว่างตรงกัน ก็ไปไม่ได้อีก
อีกอย่าง งานเที่ยวไทยแบบนี้ จัดปีละไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ดังนั้นถ้าพลาดคราวนี้ อีก 3 - 4 เดือนก็จัดใหม่ (แต่งานนี้ใหญ่ที่สุดนะครับ งานอื่น ๆ จะเล็กกว่านี้)รอให้มี Plan จะไปก่อน แล้วค่อยรอซื้อ Package ในงานครั้งหน้าก็ได้ควรจะซื้อ Voucher ที่เราคิดว่าจะได้ใช้แน่ ๆ ภายใน 1 - 3 เดือน อย่าคิดว่าซื้อเผื่อเอาไว้ก่อน เพราะจะสร้างปัญหาให้เราภายหลัง
2. อย่าซื้อเพราะเห็นแก่ของแถม
เพราะของแถมบางอย่าง เราแทบไม่มีโอกาสได้ใช้เลยเช่นพัก 2 คืน แถม 1 คืน แต่อีก 1 คืน ห้ามใช้ต่อกัน สมมุติว่าอยู่ภูเก็ต คุณจะยอมเสียค่าตั๋วเครื่องบิน บินไปอีกรอบ เพื่อพักแค่ 1 คืนหรือเปล่า? อย่างนี้เป็นต้นหรือแถมเป็นชุด Gift set อะไรซักอย่างสำหรับผู้หญิง ซึ่งเราเป็นผู้ชาย ดังนั้น ไม่ได้ใช้เองอยู่ดี ต้องเอาไปให้คนอื่น (แต่ถ้าคิดว่าจะทำคะแนนให้แฟน ก็อีกเรื่องนะครับ.. อิ อิ)
3. อย่าซื้อรีสอร์ท หรือโรงแรมใด ๆ ที่เราไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
หลายครั้งที่ไปยืนที่ Boot แล้วเห็นภาพในแฟ้ม หรือใน Notebook ดูดีมาก แต่พอไปถึงที่จริง ๆ อาจจะเป็นคนละเรื่องจนเราอยากจะโยน Voucher ทิ้งแล้วไปหาที่อื่นพักดีกว่าควรหาข้อมูลจากคนที่เคยไปมาแล้ว ดูข้อดี ข้อเสีย ว่ามีอะไรที่เราคิดว่ารับไม่ได้แน่ ๆเช่นตั้งใจไปทะเล แต่รีสอร์ทที่เราซื้อมา มันไม่ติดทะเล ต้องเดินไปอีกไกล หรือว่ารีสอร์ทนี้อยู่ในซอยลึกมาก แล้วเราไม่ได้ขับรถไปเอง ดังนั้นการเข้าออกจากรีสอร์ทจะลำปากมาก อะไรแบบนี้หรือเราอยากจะได้บรรยากาศสงบ ๆ แต่รีสอร์ทนั้นไปถึง คนพลุกพล่านมาก หรือมีการก่อสร้างอยู่ข้าง ๆ ตอกเสาเข็มทั้งวัน แบบนี้ก็จะทำให้เซ็งได้แต่ถ้าเรารู้ก่อน และรับได้ ก็ไม่เป็นไรแนะนำให้หาข้อมูลเยอะ ๆ ครับ อาจใน BP นี่ก็ได้ เลือกจากบ้านไปเลย อาจจะทำเป็นตัวเลือกไว้สัก 4 - 5 แห่ง เพื่อไปเปรียบเทียบเงื่อนไขที่ดีที่สุดในงานแต่ไม่ใช่เดินผ่านรีสอร์ท อีกแห่งที่ไม่อยู่ใน list แต่คนขายน่ารัก และพูดเก่ง เลยตัดสินใจซื้อไป แบบนี้อาจมีปัญหาได้นะครับ
ถ้าเป็นโรงแรมที่เราเคยไปมาก่อนแล้ว จะดีที่สุดครับ
4. สอบถามเงื่อนไขทุกอย่างให้ครบถ้วนก่อนซื้อนะครับ
เช่น ใช้วันศุกร์ - เสาร์ได้ไหม ? วันหยุดยาว 3 วันได้ไหม? ปกติต้องเพิ่มเงินครับ ซึ่งราคาที่เขียนตัวโต ๆ ในโบร์ชัวร์ นั้นเป็นราคาที่ใช้ได้เฉพาะวันธรรมดา (แล้วคนทำงานกินเงินเดือนอย่างเรา จะลาไปเที่ยวได้ไง?) รวมอาหารเช้าด้วยไหม? (บางทีรีสอร์ท ใช้วิธีตัดอาหารเช้าเพื่อประหยัดต้นทุน) ห้องพักที่ได้เป็นแบบไหน? อยู่ติดหาดไหม? เห็นทะเลไหม? พอรวมราคาที่บวกเพิ่มวันหยุด เพิ่มอาหารเช้า Upgrade ให้เห็นชายหาดแล้ว ราคาอาจจะเพิ่มมาเป็น 2 เท่าของตัวโต ๆ นั่นก็ได้ ดูให้รอบคอบก่อนตัดสินใจครับ อีกเรื่องคือวันหมดอายุครับ Package ที่มีอายุสั้น จะราคาถูกกว่า Package ที่มีอายุยาว ๆ ครับ
5. ก่อนตัดสินใจซื้อ แน่ใจหรือว่าราคาตาม Package ถูกกว่าปกติจริง ๆ?
โดยปกติ โรงแรม รีสอร์ท สายการบิน บัตรรับประทานอาหาร ฯลฯ จะมีการทำ Promotion เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว บางครั้งทำเอง บางครั้งให้จองผ่าน Website ราคาถูกกว่าปกติ บางครั้งทำร่วมกับบัตรเครดิต ดังนั้นควรนำมาเปรียบเทียบกับราคาที่นำมาเสนอในงานหรือบางทีราคาในงานที่รวม ส่วนเพิ่มวันหยุด และ upgrade ต่าง ๆ แล้ว ก็ไม่ต่างกับราคา walkin ด้วยซ้ำถ้าต่างกันไม่เยอะ อย่าซื้อดีกว่าเพราะรอไปซื้อช่วงอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกันมาก ไม่ต้องจ่ายเงินออกไปก่อน และไม่ต้องมีความเสี่ยงเรื่องจะได้ใช้หรือไม่ด้วย ดีไหมครับ?
6. อย่างซื้อ Voucher มาเยอะเกินไป
เพราะว่าจะใช้ไม่ทันครับ บางทีซื้อรีสอร์ทมา 5 ใบ หมดอายุพร้อมกันใน 1 เดือน อย่างนี้ต้องทิ้ง 1 ใบแน่ ๆ เพราะเดือนหนึ่งมีเสาร์-อาทิตย์ แค่ 4 ครั้ง เป็นต้นและที่สำคัญ เราต้องออกต่างจังหวัดทุกเสาร์-อาทิตย์ อย่างนี้เหนื่อยแย่เลย
7. อย่าลืมคิดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะต้องเกิดขึ้นด้วย
เช่นการซื้อโรงแรม รีสอร์ท ในภูเก็ต ต้องอย่าลืมว่าจะต้องมีค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเช่ารถ ฯลฯ ด้วย บางทีไปกัน 2 คน ค่าใช้จ่ายบางอย่างก็หารไม่ได้ (หรือบางอย่างควรจะหารได้ แต่ถ้าเราไปกับแฟน เราก็ต้องออกอยู่ดี... อิ อิ) ดังนั้น ต้องมีการเตรียมค่าใช้จ่ายพวกนี้เผื่อไว้ด้วย
8. แล้วจองยากไหม?
บางที่ไม่บวกเพิ่มวันศุกร์ - เสาร์ และวันหยุดยาว แต่พอเราซื้อไปแล้ว จะไปจอง จะพบว่าจองยากมาก เพราะห้องจะเต็มยาวเป็นเดือน ๆ (คือเต็มเฉพาะศุกร์ - เสาร์) สุดท้ายเราก็จองไม่ได้ซักที จนกระทั่ง Voucher นั้นหมดอายุ ถ้าเป็นไปได้ ให้เขาจองให้ ก่อนจะจ่ายเงินซื้อ คือบอกไปเลยว่าถ้าจองวันที่เราต้องการได้ก็จะซื้อ ถ้าจองไม่ได้ก็ไม่เอา อย่างนี้จะชัวร์ที่สุด
ข้อสุดท้ายนี่แหละเห็นด้วยเป็นที่สุด ก็เค้าได้เงินเราไปแล้วนี่ แล้วช่วง Hi season มีลูกค้าเยอะอยู่แล้ว เค้าไม่น่าจะง้อเรา แค่บอกว่าเต็มๆ ไปเรื่อย จน Voucher เราหมดอายุ ก็เซ็งเลย คิดดูจองไป 500 หรือ 1000 มีคนจองไป หมื่นคน ไปไม่ได้ซัก 10% ก็ได้ค่าบูธแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น