จำได้ว่าเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องคาร์ซีทของมามิบ่อยมาก คงเพราะมามินั่งคาร์ซีทเป็นประจำ ก็เลยมีเรื่องเล่ามากหน่อย แล้วเรื่องที่คลาสสิคที่สุดคงไม่พ้นเรื่อง "อ้วก" ฟังแล้วอย่าเพิ่งอี๋ คนเป็นแม่หนีไม่พ้นกับเรื่องนี้แน่นอน
เมื่อตอนมามิสองขวบกว่า ตอนนั้นจำได้ว่ามามิชอบเล่นไอโฟนของแม่มาก เพราะแม่แหม่มชอบโหลดแอพสำหรับเด็ก สอนภาษา เกมสำหรับเด็ก มามิก็เลยชอบขอแม่เล่น เวลานั่งรถไปไกลๆ ก็เอาละ "แม่ขอไอโฟนหน่อยค่ะ" แรกๆ ก็บอกไม่ได้ แล้วก็คอยหาเรื่องชวนคุยไปเรื่อยๆ เด๊่ยวถึงที่มามิก็ลืม พอหลังๆ ชักเริ่มหมดมุก ก็เลยหยวนๆ ให้เล่นได้ แต่กำชับว่าให้เล่นเฉพาะแอพสอนภาษา
จนวันหนึ่ง ก็เป็นเรื่องจนได้อาจจะเพราะมามิกินอ่ิมเกินไป หรือเพ่งกับไอโฟนจอเล็กๆ มากเกินไป หรือจะเพราะอะไรก็สุดจะเดา อยู่ๆ ก็มีเสียง อ๊อก แม่แหม่มหันไปดู ก็เห็นว่ามีของเหลวกำลังเคลื่อนออกจากปากมามิอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วมามิก็บอกว่า แม่…อ้วก จบกันชุดสวยและคาร์ซีท
เลยเป็นข้อห้ามอย่างหนึ่งสำหรับมามิ คือห้ามเล่นไอโฟน ไอแพด เวลานั่งรถเด็ดขาด
หลังจากกำจัดอ้วกจนหมด ทำความสะอาดคาร์ซีทจนสะอาด อย่าคิดว่ามันจะหมดไปนะ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์จะยังคงอยู่ อบอวลอยู่ในคาร์ซีทไปอีกหลายวัน ถึงเดือนก็มี
บางคนก็บอกให้จอดรถตากแดด แล้วเปิดกระจกไว้ ก็ดีเฉพาะสิบนาทีแรก พอหลังจากนั้นกลิ่นเอียนๆ ก็กลับมาเป็นระยะๆ สุดท้ายก็มีคนแนะนำให้ใช้ สเปรย์ขจัดกลิ่น แอมบิเพอร์ ฉีดที่คาร์ซีท และที่เบาะนั่งในรถ รอจนแห้ง แล้วเข้ามานั่งในรถกัน ว้าว... มันสดชื่นมาก สดชื่นจนแปลกใจว่ามันทำได้ยังไงเนี่ย
ก็เลยไปลองกับผ้าม่านในห้องของโมโม่ดูบ้าง คุณแม่ที่ลูกยังเล็ก คงเข้าใจเรื่องกลิ่นอับในห้องเจ้าตัวเล็กนะคะ เพราะมันจะมีกลิ่น ทั้งฉี่ทั้งอี ทั้งๆ ที่เราก็ทำความสะอาด เช็ดถู เรียบร้อย กำจัดขยะทุกวัน แต่กลิ่นบางทีมันจะแฝงอยู่ในห้องตลอด ถามกูเกิ้ลดูก็มีคำตอบประมาณว่า เครื่องใช้ที่เป็นผ้า บางครั้งจะมีแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นแฝงอยู่ แล้วก็จะคอยซับกลิ่นต่างๆที่อยู่ในห้อง ถ้าห้องที่มีการเปิดระบายอากาศ ตลอดเวลา และมีแสงแดดส่องถึง ก็จะไม่เป็นปัญหา แต่ห้องของโมโม่ เป็นห้องที่อยู่ด้านหลัง แสงแดดส่องไม่ถึง เปิดระบายอากาศได้ แต่ไม่ได้ตลอดเวลาเพราะอยู่ใกล้กับห้องครัว ดังนั้นกลิ่นในห้องนี้ก็เลยนัวๆ คือมันก็ไม่ฉุนนะ แต่ก็เหมือนไม่สดชื่น
เอาเป็นว่าลองสเปรย์แอมบิเพอร์เลยแล้วกัน ฉีดบนผ้าม่าน แล้วก็บนเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยผ้า ไหนๆ ฉีดแล้ว แถมตุ๊กตาด้วยละกัน เสร็จแล้วรอแห้งประมาณ 10 นาที แล้ววันนั้นแม่แหม่มก็ได้ว้าว...อีกครั้ง กลิ่นทั้งหลายหายหมด โล่งสบายจมูก แต่สำหรับโมโม่ ก็ไม่รู้เรื่องอะไร วิ่งรื้อค้นห้อง ลากตุ๊กตาไปมา เฮ้อ.. เด็กผู้ชาย
สำหรับเบื้องหลังประสิทธิภาพในการขจัดกลิ่นของ สเปรย์ แอมบิเพอร์ จากที่ได้อ่านข้อมูลในเว็บ https://www.facebook.com/AmbipurThailand เลยรู้ว่า อยู่ที่เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะที่มีคุณสมบัติในการลดแรงตึงผิว ทำให้เมื่อฉีดผลิตภัณฑ์แอมบิเพอร์ สูตรเฉพาะที่ประกอบด้วยสารแอนตี้แบคทีเรีย และ “ลูพาซอล” ซึ่งเป็นสารสกัดจากข้าวโพดที่อยู่ในแอมบิเพอร์ สามารถแทรกซึมลงสู่เนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้นบนผ้าและสารลูพาซอลจะตรงเข้าจับโมเลกุลของกลิ่นเหม็นต่างๆ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นกาย กลิ่นเท้า เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็จะกระจายความหอมลงสู่เนื้อผ้า แถมแอมบิเพอร์ยังใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เลยเหมาะสำหรับผ้าทุกชนิด แจ๋วเลยค่ะ
แถมอีกนิดสำหรับคนที่คิดว่าใช้แล้วไม่ได้ผล ทางแอมบิเพอร์ยังยินดีคืนเงินให้ด้วยนะ ลองอ่านรายละเอียดที่ http://www.ambipurmoneyback.com/ แบบนี้ขอบอกได้เลยว่าได้ใจไปเต็มๆ
วันนี้เขียนแต่เรื่องกลิ่นๆ อย่างนี้อย่าเพิ่งฉุน ฟุดฟิดๆ นะคะ เพราะเรื่องอย่างนี้ ใครไม่เคยเจอก็จะไม่่เข้าใจหรอก แต่สำหรับคนที่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่า กลิ่นพวกนี้มันยังคงติดอยู่ปลายจมูกเลยเชียวค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น