ตอนที่มามิเป็นเบบี๋ จนถึงวัย3 ขวบ
มีกิจกรรมและเวทีมากมายให้เข้าร่วมประกวด
ซึ่งกิจกรรมหรือเวทีเหล่านั้นก็จะเน้นเด็กหน้าตาน่ารัก สุขภาพดี
ด้วยความมั่นใจว่าลูกเราหน้าตาน่ารักประมาณนึง สุขภาพดีใช้ได้
ก็ส่งเข้าประกวดในหลายเวที ถึงไม่ได้รางวัลชนะเลิศ
แต่ก็ได้รางวัลรองชนะเลิศมาหลายเวที บางเวทีก็มีแสดงความสามารถตามวัย อาศัยความลาด
สดใส ร่าเริง นิดหน่อย
ไม่ค่อยได้เน้นความสามารถอะไรเป็นจริงเป็นจังมากมายก็ได้รางวัลมากับเค้าเหมือนกัน
นั่นคือความภูมิใจว่าลูกเราน่ารัก ลูกเราสุขภาพจิต สุขภาพกาย และผิวพรรณดี
เพราะได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างดีจากเรานี่แหละ
แต่พอเค้าเริ่มพูดได้ ร้องเพลงได้
เคลื่อนไหวร่างกายได้เก่ง เราก็จะพอมองออกว่าเค้ามีความชอบ ความถนัดด้านไหน
ด้วยความที่มามิเป็นเด็กที่พูดเร็ว เค้าเป็นเด็กที่ช่างสังเกตและจดจำ
ถ้าเค้าสนใจสิ่งไหน เค้าก็จะพยายามจำ และทำมันให้ได้ และสิ่งที่แม่ค้นพบคือ
มามิชอบร้องเพลง ตอนเล็กๆ อายุประมาณ ขวบกว่า – สองขวบ แม่ร้องเพลงง่ายๆ ให้ฟัง
เช่นเพลงช้าง เพลงลอยกระทง เพลงจ้ำจี้ผลไม้
ให้ฟังแค่ 4-5 รอบ เค้าก็สามารถจดจำได้อย่างรวดเร็ว ร้องตาม
และร้องเองได้ในที่สุด
ช่วงก่อนเข้าอนุบาลอายุประมาณ 2-3 ขวบ
เค้าฟังเพลงละครตอนเย็น หรือละครก่อนข่าว ฟังบ่อยเข้าๆ เค้าสามารถร้องตาม
จนร้องเองได้โดยจำเนื้อร้องได้หมด โดยไม่ต้องอาศัยดนตรีช่วย
ที่สำคัญร้องตรงคีย์ด้วยสิ พอเห็นว่าลูกมีความสามารถโดดเด่นมาทางนี้ก็เริ่มส่งเสริมเค้า
เปิดเพลงให้ฟัง ให้เค้าฟังเพลงที่หลากหลายขึ้น ทั้งเพลงไทย เพลงสากล
เมื่อมีโอกาสก็ให้เค้าไปทดลองเรียนร้องเพลงอยู่ช่วงนึง
และที่โรงเรียนสอนร้องเพลงได้จัดกิจกรรมเล็กๆ
ในโรงเรียนให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสได้ร้องเพลงบนเวที เพื่อให้พ่อ แม่
ได้ชื่นชมว่าลูกมาเรียนแล้วมีพัฒนาการมากขึ้นไปแค่ไหน
และเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้กล้าแสดงออกอีกด้วย
มามิได้ขึ้นเวทีร้องเพลงครั้งแรกที่นี่ ร้องเพลง
The Show ยืนร้องตัวแข็ง แต่ก็ร้องจนจบเพลง
ได้รับเสียงปรบมือดังสนั่น แล้วอีกครั้งได้มีโอกาสไปงานสังสรรค์ของทางโรงเรียนที่ร้านอาหารแห่งนึง
และได้ขึ้นไปร้องคาราโอเกะบนเวที โชว์เพลง คิดถึงนะ คราวนี้มีโยกตัว ส่ายหัว
เล่นกับผู้ชมข้างล่างนิดหน่อย ครั้งที่ 2 บนเวทีที่มีผู้ชมมากมาย
ถือว่าหนูทำได้ดีเลยค่ะ
ต่อมาได้มีโอกาสพามามิไปออดิชั่นกับรายการทีวีรายการนึง
ด้วยวัย 4 ขวบ 4 เดือน มามิผ่านเข้ารอบ 150 คน
จากผู้เข้าร่วมออดิชั่นทั้งหมดนับพันคน และได้ขึ้นเวทีโชว์เพื่อคัดเลือกให้เหลือ
50 คนสุดท้าย แต่ไม่สามารถชนะใจกรรมการและผู้ชมในห้องส่งก็เลยตกรอบไป
สำหรับแม่แล้วสำหรับการแข่งขันเวทีแรกของหนู การโชว์ในครั้งนี้หนูทำดีที่สุดแล้ว
และหนูก็บอกแม่ว่า “หนูตั้งใจ หนูทำเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว
หนูไม่เสียใจค่ะแม่ “
หลังจากจบออดิชั่นครั้งนั้นไปแล้วก็ไม่ได้ส่งมามิประกวดอะไรอีกเลย
และระยะหลังมานี้มามิมีกิจกรรมอื่นๆ ทำเยอะแยะไปหมด ทำให้ห่างหายจากการร้องเพลงไป
แล้วก็ไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นที่จะไปเรียนร้องเพลง
ก็เลยต้องพักเรื่องร้องเพลงไปก่อน
พอดีแม่ไปเจอกิจกรรม Dettol Dream Chasers ประชันพรสวรรค์ ไล่ตามฝันกับ Dettol ในเพจ Dettol Thailand Dettol ชวนคุณแม่ส่งคลิป VDO ร้อง เล่น เต้น แอ็ค ของเจ้าตัวน้อย เพื่อโชว์ความสามารถบนเวที Dettol Dream Chasers แล้วลุ้นเป็น 3 ผุ้ชนะ รับทุนการศึกษา และของรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก คลิปร้องเพลงของมามิที่อัพโหลดไว้ใน Youtube มีเยอะมาก ก็เลยส่งเข้าประกวดกับเค้าซะเลย ดูกติกาแล้วสามารถส่งคลิปวิดีโอเข้าร่วมกิจกรรมได้มากกว่า 1 คลิป เลยจัดไปส่งไปก่อน 2 คลิป เดี๋ยววันไหนว่าง และ อารมณ์ดี จะให้มามิร้องเพลงอัดคลิปส่งประกวดเพิ่มอีก ตอนนี้เอาที่มีส่งไปก่อนเลยค่ะ
สำหรับการส่งคลิปเข้าประกวดนั้นทำได้ง่ายมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีคลิปวีดีโอของลูกเราอยู่ใน Youtube อยู่แล้ว ตามลิงค์นี้ไปเลยค่ะ http://www.dettol.co.th/dream-chasers กดปุ่มส่งวีดีโอ แล้วกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมใส่ลิ้งค์วิดีโอจาก Youtube แล้วคลิกส่งได้เลยค่ะ ไม่ใช่แค่คลิปร้องเพลงนะคะ เป็นคลิปที่น้องแสดงความสามารถของน้อง ไม่ว่าจะร้อง เล่น เต้น หรือแสดงความสามารถอื่นๆ ได้หมดค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีบัญชี Youtube ก็สามารถคลิป ส่งข้อมูล ชื่อ-สกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อลูกน้อย พร้อมแนบไฟล์คลิปวิดีโอและชื่อคลิป อีเมล์ไปที่ DettolDreamChaser@gmail.com แล้วทางระบบจะทำการตรวจสอบ และอัพโหลดคลิปเข้าร่วมกิจกรรมให้ภายใน 24 ชม. ค่ะ
ตามไปชม ไปเชียร์
ไปโหวตคลิปน้องมามิด้วยนะคะ
คลิปแรก เป็นการขึ้นร้องบนเวทีครั้งแรก
ด้วยเพลง “The Show” : http://www.dettol.co.th/dream-chasers/detail.php?id=163
คลิปที่ 2 เป็นการขึ้นร้องบนเวทีครั้งที่
2 ด้วยเพลง “คิดถึงนะ” : http://www.dettol.co.th/dream-chasers/detail.php?id=162